ที่โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ เซ็นทรัลลาดพร้าว 11 พรรคการเมืองที่ มี ส.ส.พรรคละ 1 คน โดยคะแนนของ 11 พรรคไม่ถึงเกณฑ์ 71,000 คะแนนที่จะได้ ส.ส.พึงมี ประกอบด้วย พรรคพลังชาติไทย พรรคประชาภิวัฒน์ พรรคไทยศรีวิไลย์ พรรคพลังไทยรักไทย พรรคครูไทยเพื่อประชาชน พรรคประชานิยม พรรคประชาธรรมไทย พรรคพลเมืองไทย พรรคประชาธิปไตยใหม่ พรรคพลังธรรมใหม่ และพรรคไทรักธรรม ร่วมกันมีมติเป็นเอกฉันท์เพื่อร่วมกันดำเนินกิจกรรมทางการเมือง โดยสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี และยืนยันจะเข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ

นายสัมพันธ์ เลิศนุวัฒน์ หัวหน้าพรรคพลเมืองไทย ระบุว่า ส.ส. 11 คนพร้อมยกมือให้กับรัฐบาล ส่วนตัวเห็นด้วยกับหัวหน้าพรรค 11 คน พวกเราตั้งใจจะมาช่วยให้ประเทศชาติเดินไปได้ ยกมือสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ เพราะพวกเราเห็นว่าเป็นคนดี สามารถควบคุมคณะรัฐมนตรีได้ 

“เราทั้ง 11 คน ยังเป็น ส.ส. หากรัฐบาลทำดี เราต้องสนับสนุน แต่ถ้ามีรัฐมนตรีท่านใด ทำงานผิดไปจากความเป็นจริง พวกเราทั้ง 11 คน พร้อมจะคัดค้าน และพร้อมดูแลพี่น้องประชาชน เช่นเดียวกับนักการเมืองท่านอื่นๆ” นายสัมพันธ์ ระบุ

นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ กล่าวว่า ในฐานะหัวหน้าพรรค ตนไม่ได้คิดว่า ตนเป็น ส.ส. แต่ตนเป็นตัวแทนของประชาชนทั้ง 60,358 เสียงที่เลือกตนมา ซึ่งนโยบายทั้ง 10 ข้อ ตนยืนยันว่าจะเดินหน้าอย่างเต็มที่ การเข้าร่วมกับ พปชร เป็นความจำเป็นที่ทำให้บ้านเมืองเดินหน้าได้ ตนไม่ต้องการให้กลุ่มนักการเมืองมาต่อรองกัน เพราะบ้านเมืองจะเสียโอกาส เพราะฉะนั้น พวกเราจึงมีฉันทามติ ในการผ่าทางตัน เพื่อให้บ้านเมืองเดินหน้าต่อไปได้

“พวกเราทุกคนต้องการเปิดสวิตช์ประเทศไทย ให้เดินหน้าได้ จึงตัดสินใจอย่างไม่ลังเลในการร่วมงานกับ พปชร. สำหรับพรรคภูมิใจไทย และพรรคประชาธิปัตย์ ผมขอร้องให้มาร่วมกันทำงาน หนักนิดเบาหน่อยให้อภัยกัน แต่ฝ่ายค้าน ทั้งพรรค ไม่ต้องเสียใจ ผมจะเป็นอีกหนึ่งคนที่มาช่วยท่านในการตรวจสอบถ่วงดุล พปชร. ใช่ว่าพวกเราสนับสนุน แล้วจะทำอะไรตามใจชอบได้ แต่เรื่องที่ไม่ดีก็ต้องคัดค้าน เพราะนโยบายของเราคือการปราบโกง และการปกป้องคนจน ถึงผมจะยกมือสนับสนุน พล.อ. ประยุทธ์ แต่ก็ไม่ใช่ใจทั้งหมดจะยกให้ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องมีการตรวจสอบถ่วงดุลในสิ่งที่ถูกต้อง”

พล.ต.อ.ยงยุทธ เทพจำนงค์ หัวหน้าพรรคประชานิยม กล่าวว่า ตนจะปฏิรูปตำรวจ ในด้านสวัสดิการ โครงสร้าง เมื่อตำรวจอยู่ดี ค่อยปรับปรุงคุณภาพการทำงาน ซึ่งเราเตรียมรายละเอียดไว้แล้ว และเชื่อว่ารัฐบาลจะนำนโยบายนี้ไปดำเนินการ หากจะปฏิรูปทั้งโครงสร้างนั้นไม่มีทางสำเร็จ แต่ต้องทำเป็นขั้นเป็นตอน

ขณะเดียวกันนายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ยังเดินทางมารับมามอบหนังสือลงนามของ 11 หัวหน้าพรรคการเมืองที่ร่วมสนับสนุนพรรคพลังประชารัฐจัดตั้งรัฐบาล โดยนายสัมพันธ์ย้ำกับนายอุตตมว่า 11 พรรคพร้อมสนับสนุนพรรคพลังประชารัฐเป็นรัฐบาล

ด้านนายอุตตม ระบุว่า ตนขอขอบคุณ 11 พรรคการเมืองที่ได้ตกลงใจร่วมกันที่จะมาร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐเพื่อร่วมจัดตั้งรัฐบาลนำพาประเทศไปข้างหน้า ประชาชนกำลังรอว่าประเทศไทยจะขับเคลื่อนไปข้างหน้าอย่างราบรื่นแล้วเกิดประโยชน์กับประเทศชาติให้ได้โดยเร็ว ดังนั้น 11 พรรคการเมืองได้ร่วมเจตจำนงร่วมพรรคพลังประชารัฐเพื่อทำหน้าที่รับใช้ประเทศชาติ ยืนยันทุกพรรคที่ร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐถือเป็นหุ้นส่วนด้วยกัน มีอะไรสามารถท้วงติงกันได้

เมื่อถามว่าตอนนี้รวบรวมจำนวนเสียงได้เท่าไหร่แล้ว นายอุตตม กล่าวว่า กำลังดำเนินการอยู่ในเรื่องจำนวนเสียง ยังมีเวลาในการพูดจากับพรรคที่จะร่วมงานกับเรา ในส่วนของการร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทยและพรรคประชาธิปัตย์ ต้องบอกว่าเราให้เกียรติทุกพรรคที่มีกระบวนการภายในเพื่อตัดสินใจ เพราะเป็นเรื่องสำคัญในการเข้ามาช่วยกันขับเคลื่อนประเทศ หวังว่าเราจะมาพูดคุยกัน เพื่อให้ประเทศเดินหน้า และการจัดตั้งรัฐบาลใจ

นายอุตตม กล่าวต่อว่า ส่วนการดำเนินนโยบายของพรรคเล็กที่มาร่วมกับเรานั้น ชัดเจนว่าจุดยืนเราคือจะต้องหารือร่วมกันในเรื่องการดำเนินนโยบายที่เป็นประโยชน์กับประเทศ เพื่อให้การทำงานร่วมกันเป็นประโยชน์ และให้เป็นผลเป็นรูปธรรมออกมา

เมื่อถามถึงการให้โควตารัฐมนตรี นายอุตตม กล่าวว่า เรื่องตำแหน่งรัฐมนตรี ไม่มีเงื่อนไขอะไร เรามาพูดคุยกันเพื่อประโยชน์ประเทศ ไม่มีเงื่อนไขอะไรอย่างนั้น  

ด้านนายสัมพันธ์ กล่าวว่า ตนยืนยันว่าไม่มีเงื่อนไขอะไร มีเพียง อะไรที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศ ต่อประชาชน เรายินดีสนับสนุน ถ้าไม่ใช่เราพร้อมที่จะค้านหัวชนฝา ในเรื่องไม่ชอบมาพากล ยืนยันไม่มีเรื่องการขอตำแหน่ง

เมื่อถามว่า มีข่าวว่าการตั้งรัฐบาลจะต้องไม่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์วรรณ และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ร่วม ครม. นายอุตตม กล่าว่า ไม่มีการสร้างเงื่อนไขเช่นนั้น เราไม่เคยได้ยิน ยืนยันไม่มีเรื่องตามที่ปรากฏเป็นข่าว และเราไม่กังวลอะไร ส่วนเรื่องเสถียรภาพของรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำนั้น ขึ้นอยู่กับความเข้าใจ การร่วมใจกันทำงาน ให้เกียรติซึ่งกันและกัน ทำงานเพื่อประเทศ ตรงนี้สำคัญที่สุด