เจ้าหน้ากระทรวงสาธารสุขเข้าตรวจค้นร้านจำหน่ายกัญชา (ร้านกัญชาชูวีดบาร์ Chuweed Bar) ที่เช่าพื้นภายในโรงแรมเดอะเดวิส บางกอก ซ.สุขุมวิท24 ซึ่งเป็นโรงแรมของชูวิทย์
ทันทีที่ชูวิทย์ทราบว่า ได้เดินเข้ามาสอบถามว่า ที่มาตรวจวันนี้ในร้านมีอะไรผิดกฎหมาย โดยยืนยันว่า ร้านที่เช่าพื้นที่ได้รับใบอนุญาตให้เปิดตามกฎหมาย และถามเจ้าหน้าที่ว่า อนุทินสั่งให้มาตรวจสอบหรือไม่ และจะบอกให้ว่าคนอยู่เบื้องหลังอนุทินคือเนวิน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ตอบกลับว่าไม่มีความเห็นเรื่องนี้ มาเพราะทำตามหน้าที่ จากนั้นชูวิทย์ได้เปิดภาพหน้าอนุทินและหน้าเนวิน ว่าเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังหรือไม่ และปลูกกัญชาที่บุรีรัมย์เป็นแสนไร่ คนที่ได้ผลประโยชน์ไม่ใช่ใคร แต่คือคนในรูป
จากนั้นชูวิทย์ออกอาการหัวเสียเดินไปกวาดสินค้ากัญชาต่างๆ ที่วางบนเคาเตอร์ปัดลงกับพื้นแล้วเหยียบโชว์ด้วยความโกรธว่าโดนกลั่นแกล้งหลังเปิดโปงการคอรัปชั่นเรื่องรถไฟสายสีส้มและพอพูดถึงเรื่องกัญชา ได้ส่งคนมาตรวจสอบร้านทันที พร้อมยืนยันว่า จะพูดเรื่องโทษของกัญชาต่อไป และหากจะหาเรื่องเพื่อมาปิดโรงแรมก็ทำไป ส่วนใครที่ได้ผลประโยชน์จากรถไฟฟ้าสายสีส้มก็ขอให้ฉิบหายไป จากนั้นได้ถุยน้ำลายใส่รูปภาพอนุทินและเนวิน
ชูวิทย์ ย้ำว่าไม่เคยกลัวทุกเรื่องที่ตนเองออกมาเปิดเผยล้วนเป็นเรื่องจริง เพียงแต่ไม่ใครกล้ามาเปิดหน้า ชีวิตผ่านคุกตารางมาแล้วหลายรอบไม่กลัวชนกับใคร ยืนยันไม่ได้รับใบสั่งจากใครให้มาถล่มพรรคภูมิใจไทย ขออย่าโยงกับเรื่องการเมืองการเลือกตั้ง เพราะสิ่งที่ทำคือการทักท้วงผลกระทบ โทษของกัญชาที่มอมเมาเยาวชน แต่พรรคภูมิใจไทยกลับพูดถึงประโยชน์ ถ้ามีประโยชน์จริงทำไมพ.ร.บ.ถึงตีตกจากสภาเป็นแค่กฎกระทรวง
ชูวิทย์ยังท้าอนุทิน จะเปิดโปงเรื่องไหนให้ทำเลย เพราะตนไม่ได้มีผลประโยชน์กับใคร และชี้แจงว่าร้านดังกล่าวเพิ่งมาเช่าเมื่อเดือนตุลาคม 2565 ประมาณ 4 เดือน ไม่เคยมีเจ้าหน้าที่มาตรวจก็เพิ่งมีวันนี้ที่อนุทินให้สัมภาษณ์ตอนเช้า พอบ่ายก็ส่งเจ้าหน้าที่มาตรวจทันที หรืออนุทินถนัดใช้อำนาจการเมืองกลั่นแกล้งคนอื่น
ส่วนที่อนุทินบอกว่า ตนเองโทรหาชูวิทย์เพื่อนัดทานข้าวนั้น ยืนยันไม่เคยโทรหามีอแต่อนุทินโทรมานัดทานข้าว เพื่อให้ช่วยสนับสนุนคะแนนเสียงในกรุงเทพ พร้อมกับเสนอเงินให้อีก 50 ล้านแต่ตนไม่ได้รับปากไป แต่อนุทินกับไปบิดเบือนบอกสื่อว่าผมโทรไปหา
ชูวิทย์ยังฝากทิ้งท้ายว่า หากยังใช้อำนาจกลั่นแกล้งประชาชนและคนที่เห็นต่าง แต่มาขู่คนอย่างชูวิทย์ไม่ได้ ยืนยันจะไม่หยุดเปิดโปงเรื่องคอรัปชั่นและกัญชาเป็นซีรี่ย์ต่อไป ย้ำตนเองไม่กลัวตายชีวิตทุกวันเหมือนแขวนบนเส้นด้ายสักวันตนเองก็ลงโลง
จากนั้นชูวิทย์เดินไปเล่นเปียโนฝากถึงอนุทินให้รู้สึกผ่อนคลายอย่าหมกมุ่นแต่กับการเมือง
ขณะที่โบ้ เจ้าของร้านคาเฟ่ กัญชาที่เข้ามาเช่าพื้นที่ของชูวิทย์ ระบุว่าตนเองเข้ามาขอเช่าพื้นที่เพื่อเปิดร้านคาเฟ่กัญชา โดยเช่าเดือนละ 1 แสนบาท ซึ่งร้านตนเองมีการขออนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย และก่อนหน้านี้ก็ไม่เคยมีเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบมาก่อน มีวันนี้ที่เข้ามาตรวจโดยเข้ามาขอดูใบอนุญาตกับตนเอง ซึ่งก็ได้แสดงไปแต่เจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้แจ้งอะไรก่อนจะกลับไป ยืนยันว่าร้านดังกล่าวเป็นร้านของตนเองไม่ใช่ของชูวิทย์ มีสัญญาเช่าถูกต้องหมด ส่วนที่ชูวิทย์บอกว่ามีเด็กเยาวชนเข้ามาใช้บริการ ยืนยันว่าถ้าตนเองอยู่ที่ร้านจะไม่อนุญาตให้เด็กใช้บริการ ตามกฎของกระทรวง แต่ถ้าวันที่ตนเองไม่ได้เข้าร้านตนเองไม่สามารถตอบได้ แต่ยืนยันว่าสามารถตรวจสอบได้หากผิดก็พร้อมจะปิดร้านทันที