วันที่ 5 ม.ค. 2566 ที่โรงแรมเดอะเดวิส บางกอก ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตหัวหน้าพรรครักประเทศไทย แถลงข่าวกรณีข้อบกพร่องในการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐต่อคดีของ ชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ หรือตู้ห่าว โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ตำรวจ และอัยการ
โดยก่อนแถลง ชูวิทย์ ได้แสดงออกเชิงสัญลักษณ์ด้วยการจุดตะเกียงเพื่อเป็นการเปรียบเทียบว่า บ้านเมืองมืดมิดไร้ความหวัง ไร้ผู้นำด้านความสุจริตยุติธรรม พร้อมชูเทียนไข และบอกว่า ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) และอัยการร่วมกันนั่งเทียนเขียนสำนวนคดี
ชูวิทย์ กล่าวว่า ตำรวจทำให้พยานหลักฐานอ่อน มีการตัดต่อไฟล์ภาพจากกล้องวงจรปิดในผับจินหลิง และผับลีลา ซึ่งปรากฎภาพคนจีนใช้สารเสพติด โดยผู้ที่ส่งพยานหลักฐานให้อัยการคือ รองผู้บังคับการที่ถูกดำเนินคดีในข้อหาปล่อยรถผู้ต้องหา ส่วนเรื่องที่ตำรวจบอกว่ามีพยาน 10 ปากนั้น ชูวิทย์ ระบุว่า มีพนักงานอยู่ในร้านไม่ต่ำกว่า 50 คนแต่ตำรวจกลับไม่เรียกไปสอบสวน
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ชูวิทย์ได้มีการเปิดตัวพยาน พร้อมระบุว่าวันนี้มีพยานแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ พยานที่เป็นผู้รับเหมา และพยานอักษรย่อ ป. ซึ่งเป็นผู้ที่เห็นเงินสดถูกเบิกจากธนาคารครั้งละ 30 ล้านบาท และเป็นเงินที่โอนมาจากประเทศจีน ซึ่งพยานที่ ชูวิทย์เชิญมา ประกอบด้วย เจี๊ยบ รับเหมากระจกอะลูมิเนียมและฝ้า ซึ่งระบุว่า ตู้ห่าวติดค้างอยู่ 8.5 ล้านบาท, นัท รับเหมาทำงานทาสี และทำงานกับตู้ห่าวมาประมาณ 7 แห่ง ตั้งแต่ปี 2559-2562 ซึ่งระบุว่าตู้ห่าวติดค้างอยู่ 1.3 ล้านบาท,
หลิน ทำงานก่อฉาบปูกระเบื้อง ระบุว่า ตู้ห่าว ติดค้าง 1.5 ล้านบาท, ทวีเกียรติ ทำงานก่อและฉาบปูนกับตู้ห่าวตั้งแต่ปี 2560-61 ระบุว่าตู้ห่าวติดค้าง 1.7 ล้านบาท, เบิร์ด ทำระบบการประปา 9 แห่งกับนายตู้ห่าว ทุกวันนี้ยังเก็บเงินไม่ได้ ติดค้าง 36 ล้านบาท, บุญทรง ทำเฟอร์นิเจอร์บิ้วอิน ทำกับนายตู้ห่าว 3 แห่ง ค้างอยู่ 12 ล้านบาท, เบิ้ม ทำเกี่ยวกับโครงสร้าง 7 หลัง โดยค้างอยู่ 3 ล้านบาท และตัวแทนบริษัทแห่งหนึ่ง ทำเกี่ยวกับโครงสร้างและสถาปัตย์ที่โรงแรมดิวาลักส์ รีสอร์ทแอนด์สปา โดย ตู้ห่าวค้างอยู่ที่ 35 ล้านบาท ซึ่งตนคุยกับทั้งตู้ห่าวและ พัชรินทร์
อย่างไรก็ตาม ผู้รับเหมาทั้งหมดที่ ชูวิทย์ได้มาเปิดตัวนั้น ทุกคนล้วนให้การกับอัยการเรียบร้อยแล้วและเป็นการดำเนินธุรกิจการรับเหมาโดยตรงกับ ตู้ห่าว ทั้งสิ้น ขณะที่ พยานปากเอก ที่เป็นคนเบิกเงินกว่า 30 ล้านบาทนั้น ระบุว่า ตนได้ไปเบิกเงินตามคำสั่ง โดยวันหนึ่งเบิกเงินสดประมาณ 20-30 ล้านบาท เบิกที่ธนาคารกรุงเทพ สาขาลาดกระบัง และมีคนบอกว่าเงินนี้มาจากจีน ทั้งนี้ ตนได้ไปให้การกับอัยการเรียบร้อยแล้ว อีกทั้งตนเป็นคนมาหาชูวิทย์เอง และที่ไม่ไปหาตำรวจเพราะไม่ไว้ใจ เพราะทางนั้นรู้จักตำรวจเยอะ
ชูวิทย์ ระบุว่า ตู้ห่าวมีเงินซื้อรถยนต์โรลส์-รอยซ์ แต่ไม่จ่ายเงินผู้รับเหมา อีกทั้งรถทัวร์จำนวนกว่า 400-500 คันของบริษัท เอ็มแอนด์ เอ็ม ทรานสปอร์ต เซอร์วิส จำกัด ที่หลายคนเข้าใจว่าเป็นบริษัทของตู้ห่าว แต่คนที่เป็นเจ้าของจริงๆ คือ หจก. คอนเทมโพรารี คอนสตรัคชั่น ซึ่งเป็นของหลาน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ตนจึงไม่สงสัยว่าทำไมเรื่องมันถึงหยุดและมีอยู่เท่านี้