ไม่พบผลการค้นหา
'ต่อศักดิ์-สุรเชษฐ์' จับมือแถลงผลงานบุกทลายผับ ศูนย์เหรียญ 42 จุดทั่วประเทศ อายัดทรัพย์อื้อ เผยบุกค้นอาคารอดีต รมต. ที่มีชื่อเอี่ยว ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย ด้าน 'ชูวิทย์' ร่วมจับตา ชื่นชมตำรวจทำงานไว กระทุ้งก่อนหน้านี้ทำไมปล่อยไว้ คาด ‘ประยุทธ์’ให้จัดการ

วันที่ 1 พ.ย. 2565 ที่สโมสรตำรวจ ถ.วิภาวดีรังสิต พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) แถลงผลการปฏิบัติ นำกำลังชุดปฏิบัติการ เกือบ 1,000 นาย เข้าตรวจค้นสถานบันเทิง ผับ บาร์ บ้าน อาคาร ที่พัก และบริษัท ของนายทุนและนอมินีชาวต่างชาติ ในช่วงดึกที่ผ่านมาและเช้าวันเดียวกันนี้ จำนวน 42 จุด ทั่วประเทศ

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เผยว่า วันนี้ (1 พ.ย.) เวลา 01.00 น. พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ และ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้ร่วมกันนำเจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดปฏิบัติการเข้าตรวจค้นสถานบริการ 7 จุด ในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ ประกอบด้วย

1. ร้าน Asgard ถนนประชาอุทิศ แขวง/เขตห้วยขวาง กทม.

2. ร้าน Booze ถนนประชาอุทิศ แขวง/เขตห้วยขวาง กทม.

3. ร้าน Hollywood ถนนรัชดาภิเษก แขวง/เขตห้วยขวาง กทม.

4. ร้าน K Bangkok อาคารอาร์ ซี เอ พลาซ่า แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กทม.

5. ร้าน Joy Luck อาคารอาร์ ซี เอ พลาซ่า แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กทม.

6. ร้าน Space Plus อาคารอาร์ ซี เอ พลาซ่า แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กทม.

7. ร้าน Baby Face ซอยสุขุมวิท 63 แขวงพระโขนงเหนือ เขตวัฒนา กทม.

โดยได้มีการตรวจปัสสาวะเพื่อหาสารเสพติดจากผู้ที่ใช้บริการสถานที่ดังกล่าวรวมกว่า 329 ราย พบผู้มีสารเสพติดในร่างกายจำนวน 1 ราย ซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวจากร้าน Hollywood ซึ่งจะได้ส่งดำเนินคดีต่อไป นอกจากกรณีดังกล่าวแล้ว ไม่พบสิ่งผิดกฎหมายอื่นๆ

นอกจากนี้ ต่อเนื่องจากการตรวจค้นข้างต้น ยังมีการกระจายกำลังปฏิบัติการเข้าตรวจค้นตามบ้าน อาคารที่พัก เพื่อเสาะหาพยานหลักฐานที่อาจเกี่ยวข้องกับ ยาเสพติด อาวุธปืน และบ่อนการพนัน เพื่อนำมาประกอบการดำเนินคดีเกี่ยวกับ

กรณีเจ้าของสถานประกอบการท็อปวัน ร้านจินหลิง เบบี้เฟซและคลับวัน พัทยา โดยได้ขออนุมัติหมายค้นจากศาลเพื่อเข้าตรวจค้นทั้งหมด 35 จุด ใน 7 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ 17 จุด ชลบุรี 11 จุด สมุทรปราการ 2 จุด ชุมพร 2 จุด นนทบุรี 1 จุด สมุทรสาคร 1 จุด และขอนแก่น 1 จุด 

โดยมีจุดน่าสนใจ อยู่ที่บริเวณบ้านของ 'เดวิด' ที่บริเวณบ้านเลขที่ 94 ซ.เจริญมิตร ถ.สุขุมวิท 63 แขวงพระโขนงเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นผู้บริหารร้านเบบี้เฟซ ผลการตรวจค้นพบรถหรูป้ายแดงจำนวนหลายคัน โดยพบพิรุธข้อสงสัยเกี่ยวกับเอกสารการครอบครองรถดังกล่าว มีมูลค่ากว่า 100 ล้านบาท ซึ่งจะต้องยึดเพื่อตรวจสอบต่อไป 

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยังเผยว่า เบื้องต้นยังไม่พบความเชื่อมโยงระหว่าง 'เดวิด' กับผับจินหลิง กำลังพยายามสืบสาว ขอเวลาซักปากคำเพิ่มเติม ส่วนเจ้าของผับยานนาวา ทราบตัวแล้ว กำลังทำรายงานสืบสวนขออนุมัติหมายจับเจ้าของผับตัวจริง คนเหล่านี้ทั้งในกรุงเทพฯ และพัทยา เป็นกลุ่มเดียวกัน แยกกันไม่ออก รู้จักกันหมด ภายหลังอาจแตกแยกขัดแย้งกันบ้าง แต่ยังดำเนินธุรกิจแบบเดิมอยู่ อยู่ระหว่างไล่เรียงพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง

"เมื่อเช้านี้ก็ได้นำกำลังเข้าค้นอาคารของนักการเมือง อดีตรัฐมนตรีท่านหนึ่ง และไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย อะไรที่เกี่ยวข้องเราต้องค้นหมด ไม่เกี่ยงว่าเป็นใคร" พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ระบุ

รวมทั้งยังสืบทราบว่า ได้มีเจ้าหน้าที่รัฐให้การช่วยเหลือเอื้อประโยชน์ให้กับผู้ต้องหาบางราย โดยการเรียกรับผลประโยชน์เพื่อเร่งให้มีการส่งตัวผัดฟ้องต่อศาลและได้รับประกันตัวในชั้นศาล และประสานให้มีการปล่อยรถยนต์ของกลางที่มีการยึดไว้ตรวจสอบคืนให้กับผู้ต้องหา 

โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่รัฐดังกล่าวเพิ่มเติมจำนวน 3 ราย ประกอบด้วย

1. พ.ต.ท.คมไพร ทองลาด รองผกก.จร.สน.ลาดพร้าว 

2. พ.ต.ต.เกียรติศักดิ์ พิมมา พนักงานสอบสวน (สบ 2) สน.ยานนาวา

3. ร.ต.อ.สมยศ บุญญะแก้ว พนักงานสอบสวน (สบ 1) สน.ยานนาวา

ด้าน พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวว่า กลุ่มทุนจีนเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นพวกมีประวัติ ย้ายมาอยู่ประเทศไทย เพราะที่จีนพฤติกรรมเหล่านี้มีโทษร้ายแรง จะมีคนไทยหรือเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ ต้องสืบสาวต่อไป ไม่อาจปล่อยให้เหิมเกริมเช่นนี้ได้ หลายอย่างผลประโยชน์ตกกับกลุ่มเหล่านี้หมด ประเทศไทยถูกนำทรัพยากรไปใช้ โดยไม่ได้อะไรจากกลุ่มเหล่านี้เลย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีต ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ อดีตหัวหน้าพรรครักประเทศไทย ในฐานะผู้เปิดประเด็นผับ ศูนย์เหรียญ ยังได้เดินทางมาร่วมรับฟังการแถลงข่าวที่สโมสรตำรวจในช่วงหนึ่งด้วย ซึ่งต่อมา พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้เชิญ ชูวิทย์ ร่วมแถลงข่าว เนื่องจากเป็นผู้รวบรวมหลักฐานส่วนใหญ่ส่งมอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ

ชูวิทย์ กล่าวชื่นชมเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำงานได้อย่างรวดเร็ว เรื่องราวต่างๆ เหล่านี้ถ้าไม่มีคนสนับสนุน คนจีนต่างๆ เหล่านี้ไม่สามารถกระทำการได้ วันนี้ถึงมาจัดการได้อย่างรวดเร็ว ประชาชนก็จะตั้งคำถามว่าแล้วเมื่อก่อนหน้านี้ ทำไมไม่จัดการปล่อยให้คนต่างๆ เหล่านี้ได้เติบโตจนกระทั่งใช้กฎหมายมาเป็นเกราะป้องกัน เช่น ทำวีซ่า เรียนภาษา จัดหาทนาย แต่วันนี้ตนมาชื่นชม ไม่ได้มาแย่งซีน ยุคนี้กลายเป็นยุคใหม่ พูดไปแล้วตำรวจเอาจริง แปลว่าคงมีคำสั่งมาจากเบื้องบน นายกรัฐมนตรีคงจะเล็งไว้นานแล้วว่าต้องจัดการ

ชูวิทย์ ต่อศักดิ์ สุรเชษฐ์ 2F-587C3B88998F.jpeg

"ซึ่งบุคคลที่ต้องจัดการ ผมก็เครื่องหมายคำถามไว้แล้วกัน อันนั้นคงเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจหน้าที่ ผมแค่เปิดเผย และผมก็ไม่กลัวตาย เรียกผมว่าองคุลีมาล แล้วก็ไม่ต้องมาติดต่ออะไรผม ติดต่อ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ และ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ เลย" ชูวิทย์ กล่าว