แบรด อดัมส์ ผู้อำนวยการองค์การระหว่างประเทศด้านสิทธิมนุษยชน 'ฮิวแมนไรท์วอทช์' (HRW) ประจำเอเชีย ออกแถลงการณ์ลงวันที่ 5 มิ.ย. เรียกร้องให้รัฐบาลกัมพูชาสืบสวนข้อเท็จจริงอย่างเร่งด่วน กรณีนายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ ผู้ลี้ภัยทางการเมืองชาวไทย ซึ่งอาศัยอยู่ในกรุงพนมเปญของกัมพูชา ถูกกลุ่มชายพร้อมอาวุธ บังคับนำตัวขึ้นรถสีดำไปจากบริเวณที่พักของเขาเมื่อวานนี้ (4 มิ.ย.2563)
เนื้อหาในแถลงการณ์ของ HRW ระบุว่า มีผู้เห็นเหตุการณ์ที่วันเฉลิมถูกลักพาตัวไปจากหน้าที่พัก ทั้งยังมีบันทึกจากกล้องวงจรปิดในละแวกใกล้เคียง ขณะที่เพื่อนร่วมงานที่คุยโทรศัพท์กับวันเฉลิมครั้งสุดท้ายได้ยินเขาร้องว่า 'หายใจไม่ออก' ก่อนที่สายจะตัดไป
ส่วนทางการไทยและกัมพูชา ไม่ตอบคำถามสื่อต่างชาติที่พยายามติดต่อเพื่อขอข้อมูลยืนยัน
อย่างไรก็ตาม วันเฉลิมไม่ใช่ผู้ลี้ภัยทางการเมืองรายแรกที่ถูกบังคับอุ้มหายในต่างประเทศ เพราะนับตั้งแต่เกิดการรัฐประหารในประเทศไทยเมื่อปี 2557 มีผู้ลี้ภัยอย่างน้อย 8 รายที่หายสาบสูญไปขณะลี้ภัยอยู่ในประเทศเพื่อนบ้านไทยแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ ลาว เวียดนาม และกัมพูชา
นอกจากนี้ยังมีกรณีผู้ลี้ภัยจากประเทศเพื่อนบ้านที่มาพำนักในไทยถูกบังคับสูญหายไปจากประเทศไทยเช่นกัน
แถลงการณ์ของ HRW ระบุด้วยว่า ช่วง 6 ปีที่ผ่านมา กัมพูชาและไทยร่วมมือกันจับกุมและบังคับส่งตัว 'ผู้ลี้ภัยทางการเมือง' กลับประเทศต้นทาง ซึ่งเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ และผู้ได้รับผลกระทบรวมถึงผู้ยื่นเรื่องขอสถานะผู้ลี้ภัยกับสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ หรือ UNHCR อีกทั้งวันเฉลิมเคยให้ข้อมูลกับ HRW ก่อนหน้านี้ว่า เขาถูกเจ้าหน้าที่ทางการไทยในกัมพูชาสอดแนมเช่นกัน
HRW จึงย้ำว่า รัฐบาลกัมพูชามีพันธกิจที่จะต้องสืบสวนว่าเกิดอะไรขึ้นกับวันเฉลิม และใครเป็นผู้ใช้ปืนข่มขู่เพื่อบังคับนำตัวเขาไปจากกรุงพนมเปญ และที่สำคัญคือต้องปกป้องคุ้มครองให้เขาปลอดภัย
พร้อมกันนี้ HRW ยังเรียกร้องไปยังต่างประเทศและองค์กรระหว่างประเทศที่ให้ความช่วยเหลือด้านเงินทุนแก่รัฐบาลกัมพูชา ร่วมกันกดดันให้กัมพูชามีมาตรการติดตามตัววันเฉลิมโดยเร่งด่วน
วันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ เคยทำงานให้องค์กรพัฒนาเอกชนในประเด็นด้าน HIV และความหลากหลายทางเพศ รวมถึงเคลื่อนไหวในกิจกรรมทางการเมืองไทยอยู่นานหลายปี แต่หลังรัฐประหาร 2557 เขาถูกเรียกโดยคำสั่ง คสช. ที่ 44/2557 ออกเมื่อวันที่ 1 มิ.ย. 2557ให้ไปรายงานตัวที่สโมสรทหารบกในวันที่ 3 มิ.ย. 2557 แต่ไม่ได้เข้ารายงานตัวตามคำสั่งดังกล่าว
ต่อมาเมื่อวันที่ 8 มิ.ย. 2557 พ.ท.บุรินทร์ ทองประไพ (ยศในขณะนั้น) ได้รับมอบอำนาจจาก คสช. ได้ไปขอศาลทหารในการออกหมายจับบุคคลผู้ฝ่าฝืนคำสั่งเรียกรายงานตัวของ คสช. ซึ่งมีวันเฉลิมเป็นหนึ่งในกลุ่มดังกล่าว ก่อนศาลทหารจะอนุมัติการออกหมายจับ
จนกระทั่งวันที่ 10 เม.ย. 2561 วันเฉลิม ได้โพสต์เฟซบุ๊กเกี่ยวกับเรื่องยาเสพติด และเพจ 'กูต้องได้ 100 ล้านจากทักษิณแน่ๆ' นำไปเผยแพร่ต่อ โดยข้อความดังกล่าวระบุว่า
"ยาเสพติดระบาดหนักในหลายชุมชน จนท.ทหารหลายพื้นที่ ทำงานเป็นคนดูแลความสงบให้แก่พวกขายยา (กล่าวลอยๆ) โดยทำงานร่วมกับตำรวจท้องที่ ลองดูสิ เยอะจริงๆ ยกตัวอย่างแถวบ่อนไก่ก็ตำรวจ-ทหารเป็นหูเป็นตาให้ผู้ค้าเองด้วย ป.ป.ส.มาสืบเองก็คงมีข้อมูลแล้ว แต่ก็ไม่ทำอะไร ประชาชนในชุมชนอยู่กันอย่างหวาดระแวง ลักเล็กขโมยน้อยเกิดขึ้นประจำ นี่หรือคือยุคที่ คสช.อ้างว่าสงบสุข แต่ยาเสพติดกลับทะลักเข้ามาทำลายอนาคตของประเทศ
ทหารนอกแถวมีมากมาย แต่ควบคุมให้มีวินัยไม่ได้
เพราะ คสช.เองก็มีอำนาจด้วยวิธีการที่ผิดๆ และขาดวินัย
น่าสงสัยต่ออีก ใครปล่อยให้ยาเสพติดทะลักเข้ามา
ประโยชน์ไปตกที่ใคร เงินไปไหน อืม"
จากโพสต์ดังกล่าว ทำให้พนักงานอัยการยื่นฟ้องวันเฉลิมและแอดมินเพจ 'กูต้องได้ 100 ล้านจากทักษิณแน่ๆ' โดยระบุว่า เป็นการนำข้อความเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์เฟซบุ๊ก ซึ่งเป็นข้อความอันเป็นเท็จ
แต่เมื่อวันที่ 20 ม.ค. 2563 ศาลยกฟ้องคดีแชร์ข้อความจากเพจ 'กูต้องได้ 100 ล้านจากทักษิณแน่ๆ' เนื่องจากศาลพิจารณาแล้วเห็นว่า ข้อความดังกล่าวกระทบภาพลักษณ์ คสช. เท่านั้น ไม่มีผลต่อความมั่นคงของประเทศ
จนถึงปัจจุบัน ยังไม่มีข้อมูลแน่ชัดว่าวันเฉลิมได้ถูกออกหมายจับในคดีข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 หรือไม่ แต่ในช่วงเดือน มิ.ย. 2558 สำนักข่าวอิศราเคยนำเสนอข้อมูลจากเอกสารของหน่วยงานความมั่นคงจากการติดตามผู้ต้องหาคดีมาตรา 112 มีชื่อวันเฉลิมเป็น 1 ใน 14 ผู้ต้องหาที่หลบหนีอยู่ใน สปป.ลาว
ล่าสุด วันที่ 3 มิ.ย.2563 วันเฉลิมโพสต์วิดีโอล่าสุด วิพากษ์วิจารณ์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และในวันต่อมา 4 มิ.ย. เขาก็ถูกกลุ่มชายพร้อมอาวุธปืน บังคับนำตัวไปจากหน้าที่พักในกรุงพนมเปญและยังติดต่อไม่ได้จนถึงขณะนี้
ภาพปก: M.T ElGassier on Unsplash
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: