คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย และนาวาอากาศตรี ศิธา ธิวารี แกนนำพรรค พร้อมด้วย นางสาวสรัสนันท์ อรรณนพพร ส.ส. จังหวัดขอนแก่น, นายตรีรัตน์ ศิริจันทโรภาส อดีตผู้สมัคร ส.ส. กรุงเทพมหานคร รวมทั้ง บอส และจินนี่ ลูกของคุณหญิงสุดารัตน์ ปั่นจักรยานที��สนามปั่นจักรยานเจริญสุขมงคลจิต บริเวณสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งริเริ่มสร้างโดย น.อ.ต.ศิธา เมื่อครั้งเป็นประธานบอร์ดการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย เพราะบริเวณนี้ มีประชาชนจำนวนมากมาปั่นจักรยาน แต่เกิดอุบัติเหตุบ่อย เนื่องจากเป็นเลนส์จักรยานร่วมกับถนนปกติ จึงตั้งใจทำพื้นที่นี้ให้เป็นสถานที่ออกกำลังกายของคนกรุงเทพฯ และพื้นที่ใกล้เคียง ให้เข้าใช้ได้ฟรีและมีมาตรฐาน

น.อ.ต.ศิธา เปิดเผยว่าสนามปั่นจักรยานนี้เป็นความร่วมมือของการท่าอากาศยานฯ และเอกชนมาร่วมกันทำ CSR ความยาวระยะทาง 23.5 กิโลเมตร และมีสนามเล็ก พร้อมทั้งพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจอีกจำนวนมาก และเชื่อว่าเป็นสนามปั่นจักรยานที่มีมาตรฐานระดับโลก

คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า ในอดีตตนเคยส่งเสริมเรื่องการออกกำลังกายและการทานอาหารปลอดภัย แต่ปัจจุบันการทำนโยบายสุขภาพผิดเพี้ยนไปมาก คนเป็นโรคมะเร็งและโรคอื่นๆ เยอะมากขึ้น ซึ่งรัฐบาลต้องช่วยดู พร้อมย้ำว่า “ถ้ารัฐไม่ทำ พี่จะทำ สุขภาพหาซื้อไม่ได้ เราต้องสร้างเอง”

ขณะที่ นางสาวสรัสนันท์ กล่าวว่า ทุกวันนี้คนสนใจเรื่องสุขภาพมากขึ้น แต่ขาดอุปกรณ์ และสถานที่ที่เหมาะสม ถ้าภาครัฐให้ความสำคัญกับด้านนี้และเปลี่ยนพฤติกรรมผู้สูงอายุที่อยู่ติดบ้านให้หันมาออกกำลังกาย จะสามารถลดปัญหาสุขภาพได้

ส่วนประเด็นการเลือกตั้งผู้ว่ากรุงเทพมหานคร คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า ขอเวลา เพราะขณะนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนการเจรจากับนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ให้ลงสมัครในนามพรรคเพื่อไทย เพราะเห็นว่านายชัชชาติคือผู้ที่มีความเหมาะสม

อย่างไรก็ตาม พรรคเพื่อไทยก็จะส่งผู้สมัครผู้ว่า กทม. ในนามพรรคแน่นอน ส่วนการพบกันของนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กับนายชัชชาตินั้นจะมีนัยยะทางการเมืองหรือไม่ คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่าไม่รู้ ต้องไปถามเจ้าตัว 

ส่วนกรณีที่คุณหญิงสุดารัตน์ มีรายชื่อในโพลที่คนกรุงเทพฯ โหวตให้เป็นผู้ว่า กทม. คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า ตนผิดหวังทางการเมืองมาหลายครั้ง แต่สิ่งที่ตนเสียใจที่สุดในทางการเมืองคือไม่ได้รับเลือกให้เป็นผู้ว่า กทม. เมื่อปี 2543 เพราะตนเห็นว่าคนกรุงเทพฯ และเมืองกรุงเทพฯ ยังมีศักยภาพทำอะไรได้อีกมากมาย ตนเสียใจที่ทุกวันนี้คนกรุงเทพฯ เสียประโยชน์ทั้งทางเศรษฐกิจ และสุขภาพ ฯลฯ ตอนนี้สิ่งสำคัญคือไม่ใช่การแข่งขันแย่งตำแหน่งกับพรรคพลังประชารัฐ แต่เป็นการสร้างโอกาสกลับคืนมาให้คนกรุงเทพฯ 

ขณะเดียวกัน พรรคเพื่อไทยก็มีกลุ่มคนรุ่นใหม่ ‘เพื่อไทยพลัส’ ที่มุ่งทำงานให้ประชาชนจากการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี เช่น โครงการบางกอกน้อยโมเดล สร้างแหล่งท่องเที่ยวจากวิถีชีวิตที่น่ารักของคนบางกอกน้อยและทรัพยากรที่มีในชุมชนเผยแพร่ให้คนได้เห็น นอกจากนี้ในระดับชาติ พรรคยังมีนวัตกรรมแก้จน ประกวดของดีระดับหมู่บ้าน และการสร้างโอกาสให้คนตัวเล็กทำธุรกิจ Start up ค้าขายออนไลน์จับคู่ผู้ค้ากับตลาดโดยใช้เทคโนโลยี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

• 'สนธิรัตน์' วิ่งสวนลุม - ประชาชนเชียร์อยู่ยาว 8 ปี พปชร.ไม่คิดแก้รัฐธรรมนูญ
• 'โอ๊ค' การันตี 'ชัชชาติ' เชื่อดึงเสียงคนกรุง เหมาะนั่งผู้ว่าฯ กทม.