ไม่พบผลการค้นหา
‘จตุพร’ โชว์จับมือ 'นิติธร' สมานฉันท์ ย้ำ ไล่ 'ประยุทธ์' ตอนนี้เรื่องเล็ก ห่วงชาติเสียเอกราชให้สหรัฐฯ มากกว่า ย้ำสถาบันฯ ต้องอยู่เหนือการเมือง ชี้ใครก็ได้เป็นนายกฯ แนะ 'ประยุทธ์' นำไทยถอยออกจากอนุสัญญาภาคีอินโด-แปซิฟิก ที่กำลังถูกครอบงำโดยสหรัฐฯ

วันที่ 28 เม.ย. 2565 ที่สถานีโทรทัศน์พีซทีวี จตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ร่วมสนทนาหารือกับ นิติธร ล้ำเหลือ ตัวแทนกลุ่มประชาชนคนไทย (ปท.) ในประเด็นของสถานการณ์บ้านเมืองปัจจุบัน และภัยคุกคามรูปแบบใหม่จากต่างประเทศ เนื่องจากการลงนามในแถลงการณ์วิสัยทัศน์ร่วมระหว่างไทย-สหรัฐอเมริกา ค.ศ. 2020 ว่าด้วยการเป็นพันธมิตรด้านการป้องกันประเทศเพื่อร่วมต่อต้านศัตรู เมื่อปี 2562

นิติธร ได้อธิบายองค์ประกอบของปัญหาต่างๆ ที่นำมาสู่ความแตกแยกขัดแย้งของประชาชน การอยู่ในกับดักทางการเมือง และความรู้ไม่เท่าทันต่อสถานการณ์ทั้งในและนอกประเทศ ซึ่งจะเปิดโอกาสให้อิทธิพลจากต่างประเทศเข้ามาชักจูงได้ง่าย โดยเฉพาะอิทธิพลจากสหรัฐอเมริกา

"ยิ่งแตกแยกยิ่งตกกับดักทางการเมือง ประชาชนที่ปกครองง่ายที่สุดคือ ประชาชนที่แตกแยก และไม่เท่าทันต่อสถานการณ์" นิติธร กล่าว

ขณะที่ นิติธร ยังฝากถึงประชาชนที่ขับเคลื่อนเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์อยู่ในต่างประเทศ ควรนำเสนอความจริงที่พิสูจน์ได้ และใช้ถ้อยคำที่เหมาะสม พร้อมย้ำว่า ประเด็นที่คุณขับเคลื่อนไม่ได้เกี่ยวข้องกับสถาบันเท่านั้น แต่เกี่ยวข้องกับประชาชนในสังคมทุกคน คุณกำลังต่อสู้กับประชาชนด้วยกันเอง ไม่ใช่สถาบันฯ

จตุพร นิติธร 7B-70F7CFC75A90.jpegจตุพร สลิ่ม 0-9C4347379913.jpegจตุพร  นิติธร 4AAF-8C7A-132C08B54909.jpegจตุพร นิติธร ไทยไม่ทน CC-42D2-BBFB-F6DA79766E5C.jpeg

ด้าน จตุพร กล่าวว่า ปัญหาที่ทำให้เกิดความวิตก และยิ่งใหญ่กว่าปัญหาทางการเมือง คือการพาประเทศไทยเข้าสู่สงคราม ประเทศไทยไม่ควรอยู่ในสถานการณ์นี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ไม่ควรเข้าสู่สงคราม และควรออกมาจากอนุสัญญาภาคีอินโด-แปซิฟิก กำลังถูกครอบงำโดยสหรัฐอเมริกา ประเทศไทยไม่ควรเข้าข้างประเทศมหาอำนาจ ไม่ว่าสหรัฐอเมริกา จีน หรือรัสเซีย

"ณ วันนี้ เรื่องของ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นเรื่องเล็กมาก.. ถ้าวันนี้คนไทยยังคิดเฉพาะเรื่องตัวเอง อยู่ในกับดักที่เขาบอกให้ต้องทะเลาะกัน แต่ปัญหาข้างหน้ายังรออยู่ ถ้าคนไทยไม่สามัคคีกัน จะเกิดปัญหาเหมือนที่เกิดในยูเครน"

เมื่อถามถึงการเคลื่อนไหวเพื่อขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ ลงจากตำแหน่ง ที่เคยเริ่มต้นมาแล้วนั้น จตุพร ระบุว่า ไม่ได้สนใจเรื่องตัวบุคคล ใครจะเป็นนายกรัฐมนตรีไม่สำคัญ พล.อ.ประยุทธ์ อย่างไรก็ต้องไปอยู่แล้ว การรักษาชาติยิ่งใหญ่กว่าเรื่องนายกรัฐมนตรี ตอนนี้ไทยกำลังสูญเสียเอกราช เพราะการตัดสินใจที่ผิดพลาดของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ลงนามในอนุสัญญาภาคีอินโด-แปซิฟิก ชาติยังต้องรับการตัดสินใจของคุณที่ผิดพลาด นรกจริงๆรออยู่ข้างหน้า 

เมื่อถามว่า แล้วใครที่มีคุณสมบัติเหมาะสมจะเป็นนายกรัฐมนตรี จตุพร ตอบว่า ใครก็ได้ที่รักษาชาติได้

สำหรับความเคลื่อนไหวของกลุ่มทางการเมืองต่างๆที่ข้องเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์นั้น เช่น การอภิปรายเรื่องงบประมาณ หรือการแก้ไขกฎหมายมาตรา 112 จตุพร ย้ำว่า พระมหากษัตริย์จะต้องอยู่เหนือการเมือง กลุ่มทางการเมืองไม่ควรนำพระมหากษัตริย์มาใช้เพื่อหาประโยชน์หรือโจมตีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง

"สถาบันพระมหากษัตริย์ต้องอยู่เหนือการเมือง ไม่ควรเอาเข้ามายุ่งเกี่ยว คนธรรมดาจะดีจะชั่วก็อยู่ที่คนนั้น นักการเมืองต้องทำตามวิสัยของนักการเมือง ไม่ควรดึงพระมหากษัตริย์เข้ามา เป็นเครื่องมือเพื่อประโยชน์แห่งตน" จตุพร กล่าว