ไม่พบผลการค้นหา
'จตุพร-ทนายนกเขา' ยื่นจดหมายถึง 'ไบเดน' ค้านอนุสัญญาอินโด-แปซิฟิก ชี้ 'ประยุทธ์' สร้างพันธะกับสหรัฐฯ ส่อเป็นคู่สงครามจีน-รัสเซีย

วันที่ 12 พ.ค. 2565 ที่สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย นิติธร ล้ำเหลือ หรือ ทนายนกเขา กลุ่มประชาชนคนไทย (ปท.) พร้อมด้วย จตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) และตัวแทนภาคประชาชน เดินเข้ายื่นหนังสือจดหมายเปิดผนึกถึง โจ ไบเดน ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา เพื่อเรียกร้องให้ยกเลิกแถลงการณ์ร่วมไทย-สหรัฐฯ และพันธกรณีจากแผนยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิก และองค์กรนาโต้-2 

สืบเนื่องจากกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ไปเข้าร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน-สหรัฐอเมริกา สมัยพิเศษ ครั้งที่ 2 ที่กรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา การกระทำดังกล่าวอาจเป็นภาระผูกพันต่อเนื่องจากอนุสัญญา อินโด-แปซิฟิก ที่เคยมีการลงนามในอดีต และในสมัยของ พล.อ.ประยุทธ์ ได้มีการลงนามพันธสัญญาเกี่ยวเนื่องกันในปี 2562 ในการเป็นพันธมิตรยุทธศาสตร์การต่อต้านสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนจีน ทั้งยังเป็นการเกี่ยวพันถึงการเป็นแนวร่วมในการต่อต้านสงครามระหว่างประเทศรัสเซียและยูเครน ซึ่งสหรัฐมีท่าทีชัดเจนว่าจะเข้ากับฝ่ายของประเทศยูเครนมากกว่า และอาจดึงฝ่ายไทยเข้าไปเป็นแนวร่วมด้วย 

49534.jpg

อีกทั้งยังมียุทธศาสตร์การก่อตั้งนาโต้ 2 ในพื้นที่ประเทศอาเซียนซึ่งสุ่มเสี่ยงว่าจะทำให้สมดุลความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของทุกฝ่ายมีปัญหาและจะกลายเป็นพันธะสัญญาผูกพันไปในอนาคตหากมีความรุนแรงในสงครามหรือเกิดสงครามขึ้นในอาเซียนซึ่งจะทำให้ไทยเสียเปรียบในอนาคต จึงจำเป็นต้องยื่นหนังสือดังกล่าวเพื่อแสดงความชัดเจนว่าประเทศไทยไม่เห็นด้วยกับพันธะสัญญาใดๆ ที่เกิดขึ้น 

ด้านสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาได้ส่งตัวแทนออกมารับจดหมายเปิดผนึกดังกล่าวและจะนำส่งต่อไปตามขั้นตอนต่อไป

ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบัญชาการตำรวจนครบาลได้จัดเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจประมาณ 90 นาย ดูแลพื้นที่โดยรอบจุดที่มีการยื่นหนังสือ และจัดการจราจรในพื้นที่

49537.jpg

จตุพร เน้นย้ำว่า สนธิสัญญาในลักษณะนี้ ถึงแม้ว่าไทยจะไปทำกับประเทศอื่น เช่น จีน หรือประเทศอื่นใด เราก็จะไปต่อต้านเช่นเดียวกัน เพราะเราตั้งใจว่าจะไม่แอบอิงกับชาติมหาอำนาจใด ผู้นำประเทศไม่ว่าจะเป็น โจ ไบเดนหรือ พล.อ.ประยุทธ์ อีกไม่นานก็ต้องไป แต่ประเทศไทยและสหรัฐยังคงอยู่อีกนาน หากเกิดสงครามขึ้นเมื่อใด ประเทศไทยจะเป็นฝ่ายได้รับผลกระทบ เราไม่ควรปฏิบัติตนเป็นประเทศราชของสหรัฐอเมริกา

"ในกรณีที่ไม่มีการยกเลิก การทำนิติกรรมหรือสนธิสัญญาอินโด-แปซิฟิก อย่างไรประเทศไทยจะต้องประสบกับความเลวร้าย สถานการณ์จะหนักยิ่งกว่าประเทศยูเครน เพราะฉะนั้นในฐานะกลุ่มรวมประชาชน เราไม่มีทางเลือกเป็นอย่างอื่น ก็ต้องทำความจริงให้ปรากฏ" จตุพร กล่าว