ในวันที่อากาศเป็นใจ เรานัดจิบน้ำชายามบ่ายกับ ‘อิบูกิ มัทสุโมโตะ’ (Ibuki Matsumoto) หนึ่งในเชฟขนมหวานยอดฝีมือจากแดนอาทิตย์อุทัย ซึ่งบินตรงมาเปิดคลาสสอนทำเบเกอร์รีสไตล์ญี่ปุ่นแบบเอ็กซ์คลูซีฟที่เดอะ ล็อบบี้ เล้านจ์ (The Lobby Lounge) โรงแรมแบงค็อก แมริออท เดอะ สุรวงศ์

• อิบูกิ มัทสุโมโต หนึ่งในเชฟขนมหวานยอดฝีมือจากประเทศญี่ปุ่น ปัจจุบันประจำอยู่ที่โรงแรมเชอราตัน แกรนด์ โตเกียว เบย์

ตลอดชีวิตของเป็นเชฟ มัทสุโมโตเริ่มต้นทำงานกับโรงแรมโตเกียว ฮิลตัน (Tokyo Hilton Hotel) ก่อนผ่านงานในโรงแรมระดับสากลมาแล้วหลายต่อหลายแห่ง เช่น เดอะ เซ็นจูรี ไฮแอท (The Century Hyatt) โรงแรม ดิสนีย์ แอมบาสเดอร์ (Disney Ambassador Hotel) และโรงแรม กินซ่า เลคริน (Ginza Lakrin Hotel) จึงไม่ต้องประหลาดใจเลย หากพบเห็นบรรดาหนุ่มสาวผู้หลงรักขนมหวานแสดงอาการเคลิบเคลิ้มออกมาเวลาส่งเบเกอร์รีของมัทสุโมโตเข้าปาก

ปัจจุบัน มัทสุโมโตดำรงตำแหน่งเป็นเชฟประจำโรงแรมระดับ 5 ดาว เชอราตัน แกรนด์ โตเกียว เบย์ (Sheraton Grande Tokyo Bay) เขาโดดเด่นด้านการทำขนมอบเป็นอย่างมาก และคว้ารางวัลการันตีฝีมือการทำอาหารชั้นเยี่ยมมาแล้วมากมาย ซึ่งหนึ่งในรางวัลอันทรงเกียรติคือ เหรียญทองจากงาน ฮิกาชิ นิฮอน โยกาชิ (Higachi Nihon Yogashi) รางวัลการทำขนมอบแห่งญี่ปุ่นตะวันออก

• เชฟมัทสุโมโตโชว์ฝีมือการทำแพนเค้กชาเชียวริคอตต้าชีส

ขนมทุกชิ้นของมัทสุโมโตไม่ได้มีดีแค่ความอร่อย หรือภาพลักษณ์สวยงาม ทว่าสิ่งสำคัญที่ทำให้การผลงานของเขาดูน่าตื่นเต้น และสะท้อนให้เห็นความเป็นมืออาชีพเสมอ อยู่ตรงการเลือกใช้วัตถุดิบอย่างสร้างสรรค์ เพื่อทำขนมของเขาให้เป็นที่ประทับใจ บวกกับความเชี่ยวชาญทางเทคนิค ช่างสังเกต และการใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ

ท่ามกลางอากาศสบายๆ ฝนไม่เทลงมา มัทสุโมโตชวนเราเข้าคลาสทำ ‘แพนเค้กชาเชียวริคอตต้าชีส’ โดยเผยเคล็ดลับการทำริคอตต้าชีสฉบับโฮมเมด ตามด้วยเทคนิคการตีแป้งให้ได้แพนเค้กสไตล์ญี่ปุ่นเนื้อฟูนุ่ม ซึ่งควรเริ่มต้นจากการตีไข่ขาวจนเป็นฟองละเอียด และตั้งยอดอ่อน ก่อนแบ่งใส่น้ำตาลเป็น 3 ส่วน

มัทสุโมโตสอนด้วยว่า คุณภาพของขนมหวานทุกชนิดขึ้นอยู่กับวัตถุดิบ และขั้นตอนการทำ เพราะฉะนั้น เวลาทำขนมเขาจะเน้นเรื่องความใส่ใจในทุกกระบวนการ และพยายามอธิบายขึ้นตอนแบบเข้าใจง่าย ก่อนปล่อยทุกคนกลับไปลงมือทำกันเอง

จากนั้น เชฟผู้ใจเย็นพาเราเดินทางท่องโลกแห่งชาด้วยการลิ้มลองเซ็ตพิเศษใหม่ล่าสุด ‘ไฮที แอท สุรวงศ์’ (High Tea @ Surawongse) ที่ผ่านการคัดสรรด้วยความพิถีพิถัน ประกอบด้วยกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ของชาระดับตำนานรอนเนอเฟลด์ (Ronnefeldt) แบรนด์ระดับลักซ์ชัวรีจากเมืองแฟรงเฟิร์ต ประเทศเยอรมนี ซึ่งประวัติศาสตร์ยาวนานเกือบ 200 ปี สามารถเลือกได้หลากหลายรสชาติตั้งแต่เข้ม กลาง และนุ่มนวล เหมาะมากกับสโคนหวานนุ่มชุ่มเนย ก่อนกรีดนิ้วยกถ้วยชาดื่มตาม

• สโคนหอมเนยสดแท้ หวานน้อย กรอบนอกนุ่มใน เสิร์ฟพร้อมแยมสตรอว์เบอร์รี่ แยมเสาวรส และครีม

• ถ้วยสีแดงใสๆ เป็นเยลลี่มะเขือเทศ สลับกับชั้นกับเยลลี่เลม่อน ท่านแล้วให้ความรู้สึกสดชื่น และในส่วนของถ้วยสีน้ำตาลเป็นเยลลี่ช็อกโกแลตรสชาติเข้มข้น

• โอเปร่าเค้ก ชิ้นพอดีคำ ซ่อนเลเยอร์หลากหลายชั้น หอมกลิ่นกาแฟ และช็อกโกแลตกานาช ท็อปด้วยแผ่นทองคำเปลว

ขอสอดแทรกความรู้สักนิด ความจริงการกรีดนิ้วยกถ้วยชาไม่ได้เป็นการแอ็คติ้ง เพื่อให้เพื่อนข้างๆ เกิดอาการหมั่นไส้ แต่ความเป็นมาเกิดจากการถือถ้วยชาตั้งแต่สมัยโบราณของจีน ซึ่งแรกเริ่มนั้นถ้วยชาไม่มีหูจับ การถือจึงเป็นไปในลักษณะของการวางนิ้วหัวแม่มือในตำแหน่ง 6 นาฬิกา และนิ้วชี้กับนิ้วกลางในตำแหน่ง 12 นาฬิกา ทำให้นิ้วส่วนที่เหลือต้องกางออก เพื่อเป็นการทรงตัวไม่ให้น้ำชาที่ร้อนหกใส่ตัว

ครั้นเมื่อถ้วยชาเริ่มมีหูจับก็ไม่มีใครนิยมใช้นิ้วเกี่ยว เพราะความที่ชาร้อนมากนั่นเอง ทั้งนี้ หากอยู่ในงานบุฟเฟ่ต์ หรือปาร์ตี้ค็อกเทล เวลาดื่มให้ถือจานรองแก้วด้วยมือซ้าย และถือถ้วยชาด้วยมือขวาจะสามารถยกทั้งถ้วย และจานดื่มพร้อมกันต่อเมื่อยืนที่เคาน์เตอร์บาร์เท่านั้น

ด้านวอยซ์ ออนไลน์ เลือกแพริ่งชาเขียวคุณภาพเยี่ยมของรอนเนอเฟลด์กับเพสตรี้หวานแหววแสนอร่อยสไตล์ญี่ปุ่นกว่า 10 ชนิด อาทิ มองบลังก์ ช็อกโกแลตโอเปร่า สตรอว์เบอร์รี่ชอร์ตเค้ก แครมบรูเล่ พุดดิ้งชาเขียว มาการอง สโคน เจลลีมะเขือเทศ ฯลฯ เพื่อเรียกคืนความสดชื่น

• มาการองสีชมพูพิมพ์ลายดอกซากุระผลิบานสุดหวานแหวว ทว่าซ่อนความเปรี้ยวด้วยไส้มะนาว
• ในถ้วยเซรามิกสีน้ำตาลคือ พุดดิ้งชาเขียว วัตถุดิบยอดนิยมของญี่ปุ่น ผสมผสานลงตัวกับกวนเนื้อเนียนนุ่ม

• แม้หน้าตาจะดูเป็นสตรอว์เบอร์รี่ชอร์ทเค้กธรรมดาๆ ทว่าโดดเด่นด้วยความนุ่มละมุนละไม และไม่เลี่ยน

ไม่หมดง่ายๆ เพียงแค่นั้น ถึงแม้จะอิ่มกันเต็มที่แล้ว แต่ในเซ็ต ‘ไฮที แอท สุรวงศ์’ ยังมีอาหารคาวอีก 3 ชนิด ได้แก่ แซนด์วิชทงคัตสึ สลัดม้วน และสลัดพาร์มาแฮม

ก่อนปิดท้ายด้วยการเลือกทานเมนคอร์สได้อีก 1 จาน จาก 3 เมนู ได้แก่ ข้าวแกงกระหรี่เนื้อสไตล์ญี่ปุ่น สปาเก็ตตี้ซอสเพสโต ราเมงต้มยำกุ้ง

• สลัดผักไฮโดรโปนิกส์กับเป๊ปเปอร์โรนีราดด้วยบัลซามิก ผสมกับน้ำมันมะกอก รสชาติไม่เข้มจนเกินไป

• อีก 2 เมนูเสิร์ฟมาในลิ้นชักไม้สุดคลาสสิก ประกอบด้วยสลัดโรลสอดไว้อะโวคาโด และแซนด์วิชทงคัตสึชิ้นใหญ่เต็มคำ

สำหรับเรา เดอะ ล็อบบี้ เล้านจ์ เปรียบดั่งโอเอซิสใหม่ของการจิบน้ำชายามบ่าย ที่ช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดให้แก่คนเมืองได้ตลอดวัน ท่ามกลางบรรยากาศหรูหรา เพดานสูงโปร่ง กระจกใส เต็มไปด้วยเฟอร์นิเจอร์สีเข้มแบบมีมนต์ขลัง

สุดท้าย ขอสรุป 3 คำง่ายๆ ให้กับเซ็ตพิเศษใหม่ล่าสุด ไฮที แอท สุรวงศ์ คือ สวย อร่อย และไม่แพง  

โปรโมชั่นตั้งแต่วันที่ 14-21 กรกฎาคม
ตั้งแต่ 14.00-17.00 น.
ราคาเพียงแค่ 650++ บาทต่อท่าน
ส่วนคลาสสอนทำอาหารกับเชฟมัทสุโมโต
ในวันที่ 18 และ 21 กรกฎาคม
เวลา 11.00 น.
ผู้เข้าคลาสจะได้เรียนรู้เคล็ดลับการทำขนมหวานร
ตามด้วยไฮทีในบรรยากาศสบายๆ
ในเวลา 14.00 น. ราคา 888++ บาทต่อท่าน