เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่พระราชกฤษฎีกา "ถอนสภาพการเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินที่ใช้เพื่อประโยชน์ของแผ่นดินโดยเฉพาะของที่ราชพัสดุในท้องที่แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน และแขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร พ.ศ.2562" โดยระบุว่า พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรถอนสภาพเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินที่ใช้เพื่อประโยชน์ของแผ่นดินโดยเฉพาะของที่ราชพัสดุ ในท้องที่แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน และแขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร จึงให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ และให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป (14 ก.ค. 2562)
โดยถอนสภาพการเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินที่ใช้เพื่อประโยชน์ของแผ่นดินโดยเฉพาะที่ราชพัสดุในท้องที่แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน (ตามประกาศ) และแขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร (ตามประกาศ)
ขณะเดียวกัน ได้มีแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีการะบุพื้นที่ที่ถอนสภาพการเป็นสาธารณสมบัติ ในหน้าที่ 5-8
พร้อมกันนี้ในประกาศได้ระบุเหตุผลในการประกาศใช้ พ.ร.ฎ. ฉบับนี้ ระบุว่า เนื่องจากที่ราชพัสดุตามที่ระบุในประกาศในท้องที่แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน มีสภาพเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินที่ใช้เพื่อประโยชน์ของแผ่นดินโดยเฉพาะ และเดิมอยู่ในความครอบครองดูแลและใช้ประโยชน์ในราชการของกองทัพบก ปัจจุบันบางส่วนของที่ราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียนที่ กท.190 แปลงหมายเลขทะเบียนที่ กท.258 แปลงหมายเลขทะเบียนที่ กท.1380 แปลงหมายเลขทะเบียนที่ กท. 1387 แปลงหมายเลขทะเบียนที่ กท.1416 แปลงหมายเลขทะเบียนที่ กท. 1417 แปลงหมายเลขทะเบียนที่ กท.1422 และแปลงหมายเลขทะเบียนที่ กท.1428 ซึ่งมีเนื้อที่รวมกันประมาณ 1,340 ไร่ 1 งาน 61.06 ตารางวา กองทัพบกได้เลิกใช้เพื่อประโยชน์ของแผ่นดินโดยเฉพาะ และไม่ประสงค์จะสงวนไว้ใช้เพื่อประโยชน์เช่นนั้นอีกต่อไป
ส่วนที่ราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียน กท.1531 โฉนดที่ดินเลขที่ 19835 และเลขที่ 16836 เนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 10 ไร่ 1 งาน 30.03 ตารางวา ในท้องที่แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร มีสภาพเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินที่ใช้เพื่อประโยชน์ของแผ่นดินโดยเฉพาะและเดิมอยู่ในความครอบครองดูแลและใช้ประโยชน์ของการไฟฟ้านครหลวง ปัจจุบันบางส่วนของที่ราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียนที่ กท.1531 เนื้อที่ประมาณ 2 งาน 84 ตร.ว. การไฟฟ้านครหลวงได้เลิกใช้เพื่อประโยชน์ของแผ่นดินโดยเฉพาะและไม่ประสงค์จะสงวนไว้ใช้เพื่อประโยชน์เช่นนั้นอีกต่อไป
สมควรถอนสภาพการเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินฯ ของที่ราชพัสดุทั้ง 9 แปลงดังกล่าว ตามมาตรา 34 แห่ง พ.ร.บ.ที่ราชพัสดุ พ.ศ.2562 เพื่อมอบหมายให้กระทรวงการคลังดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยที่ราชพัสดุต่อไป จึงจำเป็นต้องตรา พ.ร.ฎ ฉบับนี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :