นายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซียเดินทางเยือนซีเรียโดยไม่เปิดเผยกำหนดการล่วงหน้า เพื่อประกาศถอนกองทัพออกจากซีเรีย เนื่องจากสามารถเอาชนะกลุ่มไอเอสได้แล้ว หลังเดินทางเยือนอียิปต์และตุรกี
นอกจากนี้ นายปูตินได้แสดงความเห็นว่า คำสั่งรับรองสถานะให้กรุงเยรูซาเลมเป็นเมืองหลวงของอิสราเอลของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ไม่ได้ช่วยให้ชาวยิวเข้าไปตั้งถิ่นฐานในพื้นที่ขัดแย้งได้ง่ายขึ้น แต่ยิ่งสั่นคลอนเสถียรภาพในตะวันออกกลาง
สำนักข่าววอชิงตันโพสต์มองว่า นายปูตินกำลังพยายามทำตัวเป็นรัฐบุรุษผู้ทรงอำนาจ มีสติ และพึ่งพาได้ของตะวันออกกลาง แม้รัสเซียไม่ได้จะก่อสงครามเย็นขึ้นมาอีกรอบ แต่ก็ต้องการขยายอำนาจในภูมิภาคนี้ เพื่อขายอาวุธและเข้าถึงก๊าซธรรมชาติของตะวันออกกลาง หลังจากที่การรับรองเยรูซาเลมของนายทรัมป์ ทำให้เกิดความรุนแรงในพื้นที่ขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์
ผลสำรวจความเห็นคนในตะวันออกกลางล่าสุดของ Pew Research พบว่า ร้อยละ 64 ของผู้ตอบแบบสอบถามมองว่า รัสเซียมีอิทธิพลในตะวันออกกลางมากกว่าช่วง 10 ปีที่ผ่านมา จากการดำเนินนโยบายอย่างระมัดระวัง และรัสเซียอาจมีอิทธิพลในภูมิภาคนี้มากขึ้นอีกในอนาคตอันใกล้ ไม่เฉพาะกับพันธมิตรอย่างซีเรียและอิหร่านเท่านั้น แต่ยังรวมถึงพันธมิตรของสหรัฐฯ ด้วย ในขณะที่นโยบายแข็งกร้าวของนายทรัมป์ยิ่งทำให้สหรัฐฯ เสื่อมอำนาจในตะวันออกกลาง