การผ่านกฎหมายครั้งนี้ถือเป็นความสำเร็จหลังความพยายามที่กินเวลายาวนานกว่าสี่ปีเต็มตั้งแต่มีการเสนอร่างกฏหมายเพื่อการสมรสของบุคคลเพศเดียวกันเมื่อสี่ปีที่ผ่านมา ทำให้ขณะนี้ประเทศชิลี กลายเป็นประเทศที่ 31 ของโลก และประเทศที่ 7 ของภูมิภาคที่ผ่านกฎหมายการสมรสเพศเดียวกัน
กลุ่มนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิมนุษยชนและความเท่าเทียมทางเพศ Movilh กล่าวว่า การผ่านกฎหมายสมรสเพศเดียวกันครั้งนี้เป็นความสำเร็จครั้งใหญ่ของชิลีที่กลุ่มคนที่มีความหลากหลายทางเพศ ครอบครัวที่มีพ่อแม่เป็นบุคคลเพศเดียวกัน และคู่รักเพศเดียวกันต่างต้องเผชิญกับการถูกแบ่งแยกและการถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนมาโดยตลอด
“การสมรสตามคำจำกัดความของรัฐบาลชิลีที่มีมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันได้ล่มสลายลงแล้วอย่างเป็นทางการ สิ่งที่อธิบายคำจำกัดความนี้ ไม่ว่าจะเป็นการเหยียดเพศ การทำให้ความรักแบบชายหญิงคือสิ่งปกติเดียวของสังคม และความไม่เท่าเทียม ซึ่งล้วนแต่เป็นสิ่งที่เลวร้ายสำหรับกลุ่มคนที่มีความหลากหลายทางเพศ บัดนี้ได้สิ้นสุดลงแล้วเช่นเดียวกัน” Movilh ระบุ
ก่อนหน้านี้ในปี 2558 ชิลีได้มีการผ่านกฎหมายที่เรียกว่ากฎหมายคู่ชีวิตหรือ Civil Union เพื่อรองรับการใช้ชีวิตคู่ของกลุ่มคนที่มีความหลากหลายทางเพศและคู่รักเพศเดียวกัน อย่างไรก็ตามสิ่งที่แตกต่างอย่างชัดเจนก็คือความเท่าเทียมในการได้รับการรับรองทางกฎหมายที่ไม่เหมือนกับการสมรสแบบชายหญิงทั่วไป หนึ่งในความแตกต่างที่สำคัญคือคู่รักเพศเดียวกันไม่สามารถรับบุตรบุญธรรมได้ การผ่านกฎหมายในปีนี้จึงถือว่ามีความสำคัญอย่างยิ่งที่สร้างความเท่าเทียมให้เกิดขึ้นในสังคม
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาประเทศชิลีได้ก้าวผ่านเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ทางการเมือง ในปี 2563 ประชาชนออกมาส่งเสียงเรียกร้องให้ยุติการใช้รัฐธรรมนูญที่เป็นมรดกตกทอดมาตั้งแต่ยุคเผด็จการ พร้อมทั้งได้การโหวตให้มีการร่างรัฐธรรมนูญใหม่ที่มีความยุติธรรมสำหรับประชาชนทุกคน