นายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ ปลัดกระทรวงกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า สถานการณ์โรคพิษสุนัขบ้าในปีนี้ไม่รุนแรงเท่าปีที่ผ่านมา โดยตามรายงานจำนวนผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตจากโรคพิษสุนัขบ้าในปีนี้ (2561) พบว่ามีเพียง 4 ราย ซึ่งน้อยกว่าปี 2559 ที่พบผู้เสียชีวิต 13 ราย และในปี 2560 จำนวน 11 ราย ซึ่งสะท้อนว่า มีจำนวนลดลงทุกปี เป็นผลมาจากการสร้างความรู้ความเข้าใจเรื่องโรคพิษสุนัขบ้ามากขึ้น รวมทั้งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้มีการบังคับใช้กฎหมายตาม พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 อย่างจริงจัง เพื่อให้โรคสงบอย่างรวดเร็ว พร้อมเร่งดำเนินการ 3 มาตรการหลัก คือ
1) ประกาศเขตโรคระบาด มีรัศมีครอบคลุม 5 กิโลเมตร
2) สำรวจสุนัขและแมวในรัศมี 5 กิโลเมตร ให้ได้ร้อยละ 100
3) ฉีดวัคซีนให้ได้ร้อยละ 100 รวมทั้งสั่งกักสัตว์ที่มีเจ้าของห้ามออกนอกบริเวณบ้าน ยกเว้นได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่
ทั้งนี้ หากพบสัตว์เป็นโรค สัมผัสสัตว์ป่วย หรือสงสัยว่าเป็นโรค เจ้าหน้าที่มีอำนาจในการทำลายสัตว์ทันที ซึ่งตั้งแต่เดือน ม.ค. – 12 มี.ค. 2561 ที่ผ่านมา ได้ประกาศพื้นที่เขตโรคระบาดชั่วคราว 37 จังหวัด และขณะนี้คงเหลือประกาศ 26 จังหวัด ซึ่งบางจังหวัดมีเพียง 1 จุด บางจังหวัดมีเพียง 2-3 จุด (1 จุดมีรัศมี 5 กิโลเมตร) โดยการประกาศเขตโรคระบาดชั่วคราวมีอายุ 30 วัน นับตั้งแต่วันประกาศ โดยไม่มีโรคระบาดเกิดขึ้นอีก
ด้าน นายสัตวแพทย์อภัย สุทธิสังข์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวว่า มาตรการป้องกันและควบคุมโรค ได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการป้องกันและควบคุมโรคระดับจังหวัดและอำเภอ มีหน้าที่กำหนดแผนการฉีดวัคซีน การกำกับ ติดตาม เสนอแนะและประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับโรคพิษสุนัขบ้า สนับสนุนให้การปฏิบัติงานระดับอำเภอเป็นไปตามเป้าหมาย ซึ่งผลการดำเนินงานในปี 2561 ที่ผ่านมาได้ดำเนินการ
1) ฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าทั้งหมด 932,807 ตัว (ตั้งแต่ ต.ค.60 ถึง 8 มี.ค.61) ในช่วงรณรงค์เดือน มี.ค - พ.ค 61 คาดว่าจะได้จำนวน 5-6 ล้านตัว และครบตามเป้าหมาย 10 ล้านตัว ภายใน ก.ย.61
2) ผ่าตัดทำหมันรวมทั้งสิ้น 79,431 ตัว (ตั้งแต่ ต.ค.60 – 8 มี.ค.61) และครบตามเป้าหมาย 2 แสนตัว ภายใน ก.ย. 61
และ 3) อบรมอาสาปศุสัตว์/อสม. เพื่อฉีดวัคซีนให้เป็นไปตาม พรบ.วิชาชีพสัตวแพทย์ ปี 61 อบรมไปแล้วจำนวน 15,500 ราย จากเป้าหมาย 17,500 ราย
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง