กลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย หรือ DGR นัดประชาชนรวมตัวภายหลังที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช. มีมติขยายเวลาการบังคับใช้กฎหมายร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ออกไป 90 วัน นับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา ทำให้โรดแมปการเลือกตั้งที่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ หน.คสช. และนายกรัฐมนตรี เคยประกาศไว้ว่าน่าจะจัดการเลือกตั้งประมาณเดือนพฤศจิกายน 2561 ต้องเลื่อนออกไป
การชุมชนของกลุ่มกิจกรรมวันนี้ (27 มกราคม 2561) เริ่มขึ้นเวลาประมาณ 17.30 น. บริเวณสกายวอล์ก หน้าห้างสรรพสินค้ามาบุญครอง สี่แยกปทุมวัน โดยมีนายรังสิมันต์ โรม นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ (จ่านิว) นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชั่น นายอานนท์ นำภา ทนายความด้านสิทธิมนุษยชน นางสาวณัฏฐา มหัทธนา นักกิจกรรมด้านสิทธิมนุษยชน และประชาชนจำนวนมากเข้าร่วม ท่ามกลางการดูแลรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ทั้งในและนอกเครื่องแบบ โดยทางตำรวจได้เข้ามาเจรจากับทางแกนนำให้ยุติการชุมนุมภายในเวลา 20.00 น.
นายรังสิมันต์ โรม กล่าวว่า การที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช. ขยายเวลาการบังคับใช้ร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ออกไป 90 วัน ทำให้การเลือกตั้งไม่เกิดขึ้นในปีนี้ เป็นเหตุให้ต้องออกมาแสดงพลังเพื่อส่งสัญญาณให้ทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้รับรู้ว่า ประชาชนไม่ต้องการให้การเลือกตั้งเลื่อนออกไปอีกแล้ว
"การเลือกตั้งต้องเกิดขึ้นในเดือนพฤศจิกายนนี้ ตามที่พล.อ.ประยุทธ์ ได้ประกาศไว้ เพราะท่านไม่ดีพอสำหรับประเทศนี้แล้ว ดังนั้นพวกเราจะแสดงพลังอย่างต่อเนื่อง โดยจะนัดทำกิจกรรมกันอีกครั้งบนถนนราชดำเนิน ในวันเสาร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ เวลา 16.00 น. เป็นต้นไป"
ด้าน นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ (จ่านิว) กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ ได้พรากสิทธิของประชาชนในการเลือกตั้ง ซึ่งได้ประกาศว่าจะคืนความสุขให้กับประชาชน แต่ในวันนี้กลับผิดคำสัญญา รัฐบาลบอกว่า จะมาปราบโกง แต่ก็โกงเหมือนกัน เช่น กรณีนาฬิกาหรูของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่แม้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช.จะบอกว่านาฬิกาเป็นของเพื่อนไม่ต้องชี้แจงก็ได้ แต่ถ้ากรณีนี้เป็นนักการเมืองในระบอบการเลือกตั้งพูดแบบนี้ ตนถามจะอยู่ต่อไปได้หรือไม่ ทั้งๆ ที่ตามฏหมายผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่ไม่แจ้งบัญชีทรัพย์สินถือว่า มีความผิด
"เราจะไม่อดทนกับเผด็จการอีกต่อไป วันนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้น ถ้านับจากวันนี้ รัฐบาล คสช. ไม่ยุติการดำเนินคดีกับนายชาญวิทย์ เกษตรศิริและปลดพล.อ.ประวิตร ที่ถือว่าเป็นกล่องดวงใจออกจาก ครม. พวกเราพร้อมยกระดับแสดงพลังกันในวันที่ 10 กุมภาพันธ์นี้ ที่ถนนราชดำเนิน" นายสิรวิชญ์กล่าว
ส่วนนางสาวณัฏฐา มหัทธนา หรือ โบว์ นักกิจกรรมด้านสิทธิมนุษยชน อ่านแถลงการณ์ประณาม คสช.และการละเมิดสิทธิมนุษยชน พร้อมเรียกร้องให้ยุติการดำเนินคดีกับ 8 แกนนำกลุ่ม We Walk และ นายชาญวิทย์ เกษตรศิริ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
ด้านนายวีระ สมความคิด กล่าวว่า เมื่อถึงเวลา มันจะมีการเปลี่ยนแปลง เรื่องของ พล.อ. ประวิตรยื้อไม่ได้หรอก ส่วนในเรื่องที่จะส่อทุจริตหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย และโดยเฉพาะในรัฐบาล คสช. เป็นคนประกาศเองไม่ใช่หรือ เมื่อนายกฯ พูดไม่รู้กี่ครั้ง พูดตลอดว่าจะปราบคอร์รัปชัน ดังนั้น เมื่อมันเป็นความต้องการของทุกคน แม้แต่รัฐบาลก็ต้องการปราบคอร์รัปชัน แล้วประชาชนทุกคนมาช่วยกันจับโกง มันผิดตรงไหน
"ตอนนี้ไม่จำเป็นต้องมาจับคนนั้นคนนี้ สีนั้นสีนี้ ตอนนี้มันไม่มีแล้ว มันมีแต่เรื่องที่ว่าเราจะช่วยกันกำจัดการทุจริตคอร์รัปชั่นที่มีอยู่ออกไปได้ยังไง เพราะเราหวังพึ่งรัฐบาลไม่ได้ เพราะในขณะนี้คนของรัฐบาลเองที่ไม่โปร่งใส" นายวีระกล่าว
ส่วนในการมาร่วมชมกิจกรรมในวันนี้ นายวีระกล่าวว่า ตนมาดู มันเป็นเสรีภาพของตน ตนมีเสรีภาพที่จะเดินบนแผ่นดินไทยจุดไหนก็ได้ และมีเสรีภาพที่จะไปเดินดูเขาทำกิจกรรมอะไร นี่คือเสรีภาพของตน