ต่างประเทศ
ทูตสหรัฐฯ ลาออก หลังทรัมป์จะส่งคนเวียดนามกลับประเทศ
นายเท็ด โอเซียส อดีตทูตสหรัฐฯ ประจำเวียดนาม เขียนแถลงการณ์ลง Foreign Service Journal ฉบับเดือนเมษายน ระบุถึงเหตุผลที่เขาตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งทูตเมื่อเดือนตุลาคมปี 2560 ว่าเขารู้สึกไม่เห็นด้วยกับนโยบายต่างประเทศหลายข้อของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ
นายโอเซียสเขียนว่านโยบายต่างประเทศหลายข้อของรัฐบาลนายทรัมป์ไม่เป็นไปในทิศทางเดียวกับคนที่ทำงานด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เช่น การที่สหรัฐฯ ถอนตัวออกจากความตกลงยุทธศาสตร์เศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิกหรือ ทีพีพี การถอนตัวออกจากข้อตกลงปารีสว่าด้วยเรื่องการแก้ไขปัญหาสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง และการแบนคนจากประเทศมุสลิมเข้าสหรัฐฯ
อย่างไรก็ตาม นายโอเซียสระบุว่า สิ่งที่ทำให้เขาทนไม่ได้จนต้องลาออกเกิดขึ้นหลังจากที่เขาได้รับคำสั่งให้กดดันรัฐบาลเวียดนามรับชาวเวียดนามมากกว่า 8,000 คนกลับจากสหรัฐฯ ทั้งที่ชาวเวียดนามส่วนใหญ่ในสหรัฐฯ เป็นผู้ลี้ภัยที่ต้องหนีออกนอกประเทศหลังสิ้นสุดสงครามเวียดนาม เพราะกลุ่มคนเหล่านี้เข้าข้างสหรัฐฯ และจงรักภักดีกับฝ่ายเวียดนามใต้ ฝักใฝ่ประชาธิปไตย
นอกจากนี้ ผู้ลี้ภัยชาวเวียดนามที่จะถูกส่งตัวกลับประเทศหลายคนเดินทางเข้าสหรัฐฯ อย่างถูกกฎหมาย บางคนได้รับกรีนการ์ดแล้วด้วย ส่วนคนที่เคยมีประวัติอาชญากรรมหลายคนก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อหลายสิบปีก่อน บางคนได้รับคำสั่งลบประวัติอาชญากรรมไปแล้วด้วยซ้ำ
ดังนั้น นายโอเซียสจึงกังวลเกี่ยวกับคนเหล่านี้ที่เคยพ่ายแพ้ให้กับเวียดนามเหนือ และอาจจะต้องถูกส่งกลับประเทศที่ยังปกครองโดยรัฐบาลคอมมิวนิสต์ ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นปัญหาเรื่องสิทธิมนุษยชนเท่านั้น แต่ "นโยบายที่น่ารังเกียจนี้" จะกระทบต่อเป้าหมายอื่นๆ ของนายทรัมป์ด้วย เช่น การลดการขาดดุลการค้า และการส่งเสริมความสัมพันธ์ทางทหาร
นายโอเซียสระบุว่าเขาได้คัดค้านนโยบายของนายทรัมป์ไปแล้ว แต่ถูกสั่งให้เงียบ และหลังจากที่พิจารณาแล้วว่าเขาไม่สามารถล้ำเส้นด้านจรรยาบรรณไปได้โดยที่ไม่ทำลายศักดิ์ศรีของตัวเอง เขาจึงตัดสินใจจะรับใช้ชาติโดยไม่อยู่ภายใต้รัฐบาลสหรัฐฯ แต่ไปช่วยสร้างมหาวิทยาลัยในเวียดนามแทน
ด้านกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐฯ ได้ชี้แจงกับสำนักข่าวเดอะ ฮัฟฟิงตัน โพสต์ว่าแถลงการณ์ของนายโอเซียสเป็นความเห็นส่วนตัวของเขาในฐานะพลเมืองคนหนึ่ง รัฐบาลเคารพนายโอเซียสที่ทำงานให้กับรัฐบาลมาหลายปี แต่การกำจัดคนต่างด้าวออกจากสหรัฐฯ โดยเฉพาะคนที่เป็นภัยกับความมั่นคงของชาติและความปลอดภัยสาธารณะ ถือเป็นความสำคัญสูงสุดของรัฐบาลสหรัฐฯ
นอกจากนี้ กระทรวงต่างประเทศของสหรัฐฯ ยังกล่าวว่าแต่ละประเทศมีพันธสัญญาตามกฎหมายระหว่างประเทศในการรับพลเมืองของตัวเองกลับประเทศ เมื่อประเทศต้นทางต้องการขับไล่ กำจัด หรือส่งตัวกลับประเทศ สหรัฐฯ ก็ให้ความร่วมมือกับประเทศอื่นในการทำเอกสารและรับพลเมืองของตัวเองกลับ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
