พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดีล่าสัตว์ทุ่งใหญ่ฯ ของนายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน)กับพวกอีก 3 คน ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 เพื่อประชุมร่วมกับพนักงานสอบสวนเร่งรัดคดีนายเปรมชัย กับพวกเข้าไปล่าสัตว์ในทุ่งใหญ่นเรศวร โดยวันนี้ที่เดินทางมาเพื่อเร่งรัดสำนวนคดี และเก็บรายละเอียดต่างๆ เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานให้ครบถ้วน ทุกข้อหา ก่อนจะส่งฟ้องพนักงานอัยการให้ทันภายในวันที่ 26 มี.ค. ส่วนวันที่ 14 มี.ค. ที่จะถึงนี้พนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกครั้งที่ 1 ให้นายเปรมชัยและภรรยามารับทราบข้อกล่าวหาที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิด เกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรณีครอบครองงาช้างผิดกฎหมายและอาวุธปืน ถ้าหากไม่มาจะต้องมีการออกหมายเรียกครั้งที่ 2 และจะดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

ส่วนการแจ้งข้อหาติดสินบนเจ้าหน้าที่รัฐจะให้คณะทำงานชี้แจงก่อนในวันนี้ว่าจะเข้าข่ายข้อกล่าวหาหรือไม่ คาดว่าจะมีความชัดเจนภายหลังประชุมช่วงบ่าย พร้อมยืนยันว่าไม่หนักใจ กฏหมายไม่มีจน ไม่มีรวย อยู่ที่พยานหลักฐาน ซึ่งในช่วงบ่ายจะมีการเรียก เจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ ทั้งหมดที่ปฏิบัติงานในวันเกิดเหตุ โดยเฉพาะนายวิเชียร ชินวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร มาสอบปากคำทุกประเด็นที่ยังสงสัยที่กองบัญชาตำรวจภูธรภาค 7

'ศรีสุวรรณ' ร้องผู้ตรวจการแผ่นดินสอบ 'ศรีวราห์-ผกก.ทองผาภูมิ' สั่งลงโทษจนท.แจ้งข้อหาทารุณสัตว์

ด้านนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เข้ายื่นคำร้องถึงประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อขอให้ตรวจสอบการไม่ปฏิบัติตามกฎหมายหรือปฏิบัตินอกเหนือหน้าที่และอำนาจตามกฎหมาย พล.ต.อ. ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พ.ต.อ.วุฒิพงษ์ เย็นจิตร ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรทองผาภูมิ จากกรณีที่ พล.ต.อ.ศรีวราห์ สั่งการให้ตรวจสอบเอาผิดผู้เกี่ยวข้องกรณีการแจ้งความการทารุณกรรมสัตว์ ทำให้ พ.ต.อ.วุฒิพงษ์ เย็นจิตร มีคำสั่งสถานีตำรวจภูธรทองผาภูมิ ลงโทษภาคทัณฑ์ ให้ลงโทษ ร.ต.อ.สุมิตร บุญยะนิจ พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรทองผาภูมิ หลังจากที่ปศุสัตว์กาญจนบุรีเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษนายเปรมชัย กับพวก ในฐานความผิดการกระทำทารุณกรรมสัตว์โดยไม่มีเหตุผลสมควร ซึ่งต่อมาได้ถอนแจ้งความร้องทุกข์ไป จนทำให้พนักงานสอบสวนต้องถูกลงโทษทางวินัยให้ถูกภาคทัณฑ์ จากข้ออ้างที่ไม่ตรวจสอบข้อกฎหมายและรับคำร้องทุกข์ไปโดยไม่ถูกต้อง 

ทางสมาคมฯมองว่าการดำเนินการทางวินัยเพื่อออกคำสั่งลงโทษดำกล่าวเป็นการใช้อำนาจที่ไม่เป็นไปตามรูปแบบขั้นตอนหรือวิธีการในการออกคำสั่ง อาจเป็นการลงโทษทางวินัยที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากอาจขัดหรือแย้งต่อกฎ ก.ตร. ว่าด้วยวิธีการออกคำสั่งเกี่ยวกับการลงโทษ พ.ศ.2547 ข้อ 3 วรรคท้าย ว่า การทำคำสั่งลงโทษให้ทำตามแบบคำสั่งลงโทษตามที่ก.ตร.กำหนด “รูปแบบ คำสั่งตามกฎก.ตร.กำหนดให้ระบุฐานความผิดซึ่งต้องระบุอนุมาตราที่ผิดวินัยให้ชัดเจน แต่คำสั่งลงโทษภาคทัณฑ์ดังกล่าวกลับไม่ระบุมาตราหรืออนุมาตราไว้แต่อย่างใด จึงน่าจะเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายว่าด้วยวินัยตำรวจ ดังนั้นทางสมาคมฯจึงขอให้ผู้ตรวจฯ เร่งดำเนินการตรวจสอบกรณีดังกล่าวโดยเร็ว