ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีกำหนดการเดินทางไปตรวจราชการ จ.ลำพูน ในวันที่ 3 ต.ค.นี้ โดยจะเดินทางจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยสายการบินไทยที่ TG102 ไปยังท่าอากาศยานเชียงใหม่ จากนั้นเดินทางโดยรถยนต์ไปยัง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ลำพูน เพื่อเยี่ยมชมเส้นทางท่องเที่ยวเมืองรอง จ.ลำพูน ตามโครงการ "ไทยเที่ยวไทย ไทยยั่งยืน" จากนั้นจะนั่งรถรางเพื่อไปสักการะอนุสาวรีย์พระนางจามเทวี องค์ปฐมกษัตริย์แห่งนครหริภุญไชย และร่วมกิจกรรมถวายโคมบูชาแด่พระนางจามเทวี
เสร็จแล้ว นายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปยังมหาวันวรมหาวิหาร เพื่อชมการแสดงต้อนรับชุดฟ้อนหริภุญชัย สักการะพระรอดลำพูน และร่วมกิจกรรมกดพิมพ์พระรอด สักการะกู่ช้าง-กู่ม้า ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของชาวลำพูน ซึ่งเป็นสุสานช้างศึก-ม้าศึกคู่บารมีของพระนางจามเทวี ชมการแสดงตีกลองสะบัดชัย และฟ้อนเจิง และสักการะพระประธานในวิหารหลวง วัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหาร ปูชนียสถานศักดิ์สิทธิ์สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในภาคเหนือ ซึ่งภายในเจดีย์บรรจุพระสารีริกธาตุ พร้อมทำพิธีสวดเรียกขวัญ รวมทั้งจะถวายผ้าห่มพระบรมธาตุหริภุญชัยแด่ พระเทพรัตนายก เจ้าคณะลำพูน
จากนั้นนายกรัฐมนตรีและคณะ จะเยี่ยมชมลานวัฒนธรรม หมู่บ้านโอทอป นวัตวิถี การแสดงของเยาวชนกลุ่มชาติพันธุ์ของจังหวัดลำพูน การแสดงหมู่บ้านคนมอญ และกิจกรรมคุณธรรม เยี่ยมชมตลาดขัวมุงท่าสิงห์ ผลิตภัณฑ์ผ้าฝ้ายไหมยกดอก และผลิตภัณฑ์โอทอปจ.ลำพูน แล้วไปยังชุมชนท่องเที่ยวบ้านหนองเงือก ตำบลแม่แรง อำเภอป่าซาง เพื่อร่วมประกาศ "ลำพูนเมืองสะอาด ปราศจากโฟม" ร่วมกับชาวลำพูน และพบปะประชาชน ชมการผลิตฝ้ายทอมือหนองเงือก และผลิตภัณฑ์ชุมชนบ้านหนองบ้านหนองเงือก เยี่ยมชมการจัดการขยะมูลฝอยชุมชน จังหวัดปลอดขยะเปียก และลำพูนเมืองสะอาดปราศจากโฟม จากนั้นเดินทางกลับกรุงเทพมหานคร
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ทั้งนี้เป็นการลงพื้นที่ครั้งแรกของ พล.อ.ประยุทธ์ หลังประกาศท่าทีรับสนใจงานการเมือง ขณะเดียวกันคณะที่เดินทางไปกับนายกฯปรากฎว่า ไม่มีชื่อของนายอุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม ว่าที่หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ ว่าที่เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ว่าที่รองหัวหน้าพรรค และนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รมต.สำนักนายกรัฐมนตรี ว่าที่โฆษกพรรค ร่วมคณะด้วย ทั้งนี้มีความเป็นไปได้ว่าเพื่อป้องกันครหาใช้เวลาราชการเอาเปรียบทางการเมือง