นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้โพสต์ข้อความและรูปภาพผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ในวันเปิดตัวการประชุมจัดตั้งพรรคพลังประชารัฐ ใจความสำคัญระบุว่า สุวิทย์ เมษินทรีย์กับอีกก้าวสำคัญบนเส่้นทางใหม่ทางการเมือง โดยระบุตอนหนึ่งว่า ผมตั้งใจไว้ว่าจะทำให้พรรคพลังประชารัฐเป็นทางเลือกใหม่ของคนไทยทุกคน ที่ก้าวข้ามความขัดแย้ง เดินหน้าประเทศไทยโดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังและขอบคุณทุกท่านที่สนับสนุนและให้กำลังใจในการทำงาน และจะใช้กำลังใจเหล่านั้นเป็นพลังให้ทำหน้าที่เพื่อประเทศชาติต่อไป
ทั้งนี้ ข้อความที่นายสุวิทย์ โพสต์ได้มีการไล่เรียงถึงประวัติการศึกษา ประวัติการทำงานในด้านธุรกิจ รวมถึงเส้นทางทางการเมืองที่เริ่มต้นตั้งแต่ปี 2546 ในตำแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพาณิชย์ ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ซึ่งได้มอบหมายให้รับผิดชอบงานหลายเรื่อง แต่ที่ภาคภูมิไทยคือ การปั้นและขับเคลื่อนโครงการหนึี่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ หรือโอทอป ซึ่งเป็นนโยบายที่ประสบความสำเร็จและเป็นที่จดจำมาถึงทุกวันนี้ และล่าสุด คสช. ได้ให้เข้ามาร่วมงานในตำแหน่งสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ ขับเคลื่อนร่างนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ก่อนจะได้รับโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีจนถึงปัจจุบัน ซึ่งต้องขับเคลื่อนภารกิจคือ การจัดตั้งกระทรวงใหม่ ที่จะควบรวมกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเข้ากับการอุดมศึกษาและสภาวิจัยแห่งชาติ
นายสุวิทย์ ยังโพสต์ยืนยันว่าสิ่งที่ได้เล่าทั้งหมดเพื่อให้ทุกคนทราบถึงประสบการณ์ทำงาน ความหวัง และความตั้งใจ ที่ได้ตัดสินใจเข้าร่วมกับพรรคการเมือง เพื่อมีโอกาสได้สานต่อในสิ่งที่วางรากฐานเอาไว้ และอยากขับเคลื่อนต่อให้สำเร็จ เพราะการพัฒนาประเทศไม่สามารถทำได้ในระยะเวลาสั้นๆ ต้องอาศัยเวลาและการร่วมแรงรีลร่วมใจกัน ทั้งรัฐบาลและประชาชน ความสามัคคีคนในชาติ ประชาชนต้องกล้าเปลี่ยนแปลง เพราะโลกเปลี่ยนไทยต้องปรับตัวให้ทัน
ด้านนายอุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรมและว่าที่หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้โพสต์ในแฟนเพจเฟซบุ๊กเมื่อวานนี้ (29 ก.ย.) เช่นกันว่า ผมตัดสินใจร่วมพรรคนี้เพราะอุดมการณ์ของพรรคตรงกับอุดมการณ์ของผม ที่อยากทำการเมืองแนวใหม่ มุ่งสร้างคน สร้างชาติ สร้างเศรษฐกิจของประเทศให้เกิดความมั่นคงอย่างยั่งยืน
ขอขอบคุณพี่น้องประชาชนและผู้ประกอบการทุกท่านที่ให้กำลังใจและสนับสนุนผมมาด้วยดี ผมยังคงทำหน้าที่รัฐมนตรีเพื่อขับเคลื่อนงานสำคัญตามนโยบายของรัฐบาลให้เกิดผลต่อประชาชนและส่วนรวมมากที่สุด โดยขอยืนยันว่าจะไม่ใช้เวลาและทรัพยากรเพื่อสร้างความได้เปรียบทางการเมืองอย่างเด็ดขาด!!
ด้านนายสนธิรัตน์ สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ และว่าที่เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ โพสต์ในแฟนเพจเฟซบุ๊ก ระบุว่า รัฐมนตรีทั้ง 4 คนของพรรค สามารถแยกแยะการทำหน้าที่รัฐมนตรี กับ นักการเมือง ออกจากกันได้ เราจะทำหน้าที่รัฐมนตรี ไม่ให้มีประโยชน์ทับซ้อนกับพรรคพลังประชารัฐ การทำงานของพรรคจะมีมาตรฐานเช่นเดียวกับอดีตรัฐมนตรีรักษาการที่เคยปฏิบัติ และเราจะทำให้ดีกว่ายืนยันว่า ผมไม่ได้หวงตำแหน่ง แต่ภารกิจของแต่ละคน ยังจะต้องขับเคลื่อนการลงทุน ถ้าเปลี่ยนตัวในช่วงนี้ ก็ไม่ได้ทำให้เกิดประโยชน์ต่อการบริหารประเทศของรัฐบาล
ขณะที่ แฟนเพจเฟซบุ๊กของนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และว่าที่โฆษกพรรคพลังประชารัฐ ยังไม่มีความเคลื่อนไหวหรือคำกล่าวถึงการร่วมงานพรรคพลังประชารัฐ นอกจากการประชาสัมพันธ์รายการเดินหน้าประเทศไทย (วันเสาร์) ที่ผ่านมา
"กอบศักดิ์" ยัน "4 รมต.พลังประชารัฐ" ไม่เอาเปรียบคู่แข่ง-ตรวจสอบได้
นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะว่าที่โฆษกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีการเรียกร้องจากหลายฝ่ายให้ 4 รัฐมนตรีลาออกจากตำแหน่ง เพื่อไม่ให้เกิดการเอาเปรียบ หลังจากประกาศตัวร่วมงานกับพปชร.อย่างเต็มตัว ว่า เรื่องนี้ขอยืนยันตามที่นายอุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม ว่าที่หัวหน้าพรรค ได้ประกาศไว้ว่า เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมก็จะมาสวมหมวกเพียงใบเดียวคือ พปชร.
ส่วนที่เกรงกันว่า 4 รัฐมนตรีของพรรคจะใช้อำนาจต่างๆ เป็นการเอาเปรียบคู่แข่งทางการเมืองนั้น นายกอบศักดิ์ กล่าวว่า ท่านว่าที่หัวหน้าพรรค นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ ว่าที่เลขาธิการพรรค นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโล ว่าที่รองหัวหน้าพรรค ก็ยืนยันว่าจะไม่มีการใช้เวลารวมถึงการใช้ทรัพยากรต่างๆ ของรัฐไปเอาเปรียบพรรคอื่นๆ และในเรื่องนี้มั่นใจว่าจะทำให้โปร่งใสและสามารถตรวจสอบได้
เมื่อถามถึง รายชื่อว่าที่ผู้สมัครส.ส.ของพรรคในภาคต่างๆ ที่ปรากฎเป็นข่าวในขณะนี้ นายกอบศักดิ์ กล่าวว่า รายชื่อที่ปรากฎออกมาไม่เป็นความจริง เพราะพรรค พปชร. เพิ่งจะจัดตั้งได้เพียง 1 วันเท่านั้น อีกทั้งยังต้องมีการดำเนินการตามขั้นตอนต่างๆ ตามที่กฎหมายกำหนดอีก และยังมีเวลาอีกมากในการคัดสรรผู้สมัครส.ส. ของพรรค
ทั้งนี้ 4 รัฐมนตรีมีจำนวนผู้ติดตามแฟนเพจเฟซบุ๊ก (ณ 30 ก.ย. 2561) มากน้อยตามลำดับดังนี้
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :