นางสาวพิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ ให้สัมภาษณ์นิตยสารบลูมเบิร์ก สื่อสายเศรษฐกิจชื่อดัง เมื่อวันที่ 10 ก.ค. ที่ผ่านมา โดยกล่าวถึงแนวโน้มความร่วมมือทางเศรษฐกิจการค้าระหว่างไทยและอังกฤษในช่วงหลังจากที่อังกฤษถอนตัวจากอียู (เบร็กซิต) เสร็จสิ้นแล้ว
ผอ. สนค. ระบุว่า หากอังกฤษถอนตัวจากอียูสำเร็จ จะช่วยให้ไทยมีโอกาสทางเศรษฐกิจและการลงทุนเพิ่มขึ้น เพราะไทยสามารถเจรจาความร่วมมือด้านการค้าเสรีในกรอบทวิภาคีร่วมกับรัฐบาลอังกฤษได้โดยไม่ต้องกังวลว่าจะมีการบังคับใช้มาตรการควบคุมสินค้าบางประเภทเหมือนที่สภาอียูลงมติให้ประเทศสมาชิกอียูปฏิบัติตาม
ทั้งนี้ บลูมเบิร์กรายงานว่า ไทยเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่พึ่งพาการส่งออกในอัตราที่มากกว่าร้อยละ 70 ขณะที่อังกฤษเป็นคู่ค้ารายใหญ่อันดับ 3 ของไทยเมื่อเทียบกับประเทศสมาชิกอียูอื่นๆ
ผอ. สนค. ระบุด้วยว่า ไทยอาจจะพิจารณาส่งออกผลิตภัณฑ์เนื้อไก่ไปยังอังกฤษเพิ่มเติม และอังกฤษอาจสนใจลงทุนด้านธุรกิจประกัน รวมถึงส่งออกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาไทย เช่น วิสกี้
นอกจากนี้ เมื่อเดือนที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพิ่งจะเดินทางไปยังกรุงลอนดอนของอังกฤษเพื่อพบนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรี และหารือด้านความร่วมมือระหว่างสองประเทศ
การพบกันดังกล่าวมีสิ่งสำคัญประการหนึ่งซึ่งอังกฤษพยายามกดดันไทย ได้แก่ การจัดการเลือกตั้งโดยเร็วที่สุด เพราะการเจรจาฟื้นฟูความสัมพันธ์จะทำได้ก็ต่อเมื่อไทยมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย
ที่มา: Bloomberg/ Nikkei Asian Review