สำนักงานคณะรัฐมนตรีประเทศญี่ปุ่น รายงานอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจประจำไตรมาส 2/2563 ติดลบ 27.8% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า หรือคิดเป็นการหดตัว 7.8% เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปีนี้ ปัจจัยสำคัญมาจากการบริโภคภาคเอกชนและการส่งออกที่มีปัญหาจากวิกฤตโรคระบาดเป็นสำคัญ
นอกจากเศรษฐกิจของญี่ปุ่นจะติดลบมาต่อเนื่องแล้วเป็นเวลา 3 ไตรมาส เจ้าหน้าที่ยังชี้ว่าตัวเลขหดตัวในปัจจุบันแย่ที่สุดเป็นประวัติการณ์ย้อนหลังไปถึงปี 2498 ด้วยซ้ำ
ยาสุโตชิ นิชิมูระ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของญี่ปุ่นชี้แจงว่า สภาพเศรษฐกิจที่เปราะบางครั้งนี้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะรัฐบาลต้องกลับมาประกาศมาตรการฉุกเฉินอีกครั้งระหว่างเดือน เม.ย.-พ.ค. หลังการแพร่ระบาดมีแนวโน้มปะทุขึ้นอีกรอบ
อย่างไรก็ตามตนเองย้ำว่าจะพาเศรษฐกิจพลิกขึ้นมาจากจุดต้ำสุดในเดือน เม.ย.-ม.ย.ให้ได้ ด้วยการเน้นอุปสงค์ภายในประเทศเป็นหลัก ทั้งยังเสริมความมั่นใจครัวเรือนและบริษัทว่ารัฐบาลพร้อมสนับสนุนให้ผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปให้ได้อย่างต่อเนื่อง
ยูอิชิ โคดามะ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ประจำสถาบันวิจัยเมจิ ยาซูดะ ชี้ว่า ตัวเลขจีดีพีที่ลบฮวบเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เพราะประเทศยังมีปัญหาโควิด-19 อยู่ เงื่อนไขนี้จึงเป็นประเด็นสำคัญที่รัฐบาลต้องเข้ามาควบคุมสถานการณ์ให้ได้เพื่อพลิกฟื้นเศรษฐกิจประเทศ
นอกจากนี้ สถานการณ์ของญี่ปุ่นยังไม่สู้ดีมากนักเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ในเอเชีย อาทิ เกาหลีใต้ ที่จีดีพีในไตรมาส 2/2563 หดลงเพียง 3.3% เท่านั้น ขณะที่จีนกลับมาเป็นบวกแล้วในสัดส่วน 3.2%
อ้างอิง; Nikkei Asian Review, Kyodo News, Bloomberg