ไม่พบผลการค้นหา
เครือข่ายภาคประชาชนเมืองคอน ตรวจสอบไฟส่องสว่างวัดพระธาตุ งบเกือบ 14 ล้านบาท ใช้การไม่ได้ แมน ปกรณ์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ก้าวไกล ร่วมสังเกตการณ์

เมื่อวันที่ 12 พ.ย. 2565 เรียง สีแก้ว กลุ่มเพื่อนพัฒนานคร ,เฉลิม จิตรามาศ ประชาสัมพันธ์ศาสนา สารานุกรม วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร และเครือข่ายภาคประชาชนนครศรีธรรมราช ลงพื้นที่ตรวจสอบโครงการไฟส่องสว่าง ณ วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จ.นครศรีธรรมราช งบก่อสร้างเกือบ 14 ล้านบาท แต่ใช้การไม่ได้ ไร้ผู้รับผิดชอบ โดยมีปกรณ์ อารีกุล ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคก้าวไกล และทีมงานเข้าร่วมสังเกตการณ์

เรียง สีแก้ว กล่าวว่า “ภาคประชาชนได้รับทราบการเผยแพร่ข่าวจากสื่อมวลชนกรณีไฟส่องแสงสว่างวัดพระมหาธาตุ วันนี้จึงได้นัดรวมตัวกันมาตรวจสอบ โดยได้รับความอนุเคราะห์จากคุณเฉลิม จิตรามาศ ประชาสัมพันธ์ฯวัดพระธาตุ มานำเดินสำรวจ เบื้องต้นได้รับทราบว่าโครงการนี้รับผิดชอบโดยสำนักงานโยธาธิการและผังเมือง นครศรีธรรมราช เมื่อปี 2557 ใช้งบประมาณเกือบ 14 ล้านบาท แต่ในปัจจุบัน ไฟส่องสว่างดังกล่าวไม่สามารถใช้การได้”

ขณะที่เฉลิม จิตรามาศ กล่าวว่า “ตอนแรกทางวัดก็รู้สึกยินดีที่ได้มีงบประมาณลงมาพัฒนาวัด แต่โครงการติดไฟส่องสว่างดังกล่าวนี้ไม่ได้มีการปรึกษาหารือกับทางวัดหรือกรมศิลปากรก่อนการดำเนินงาน ทำให้มีการเดินสายไฟและติดตั้งกล่องควบคุมไฟบนโบราณสถาน ซึ่งกระทบต่อทัศนียภาพและภายหลังมีการส่งมอบการบำรุงรักษาให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เท่าที่ตนทราบประสบปัญหาที่ไม่ได้มีการตั้งงบซ่อมแซมเอาไว้ ต้องรอให้มีกิจกรรมหรือเทศกาลใหญ่ๆ จึงจะมีการเข้ามาซ่อมแซมบ้างเป็นครั้งๆไป”

“ในฐานะที่ตนเป็นบุคลากรของวัดต้องชี้แจงว่า วัดไม่มีงบประมาณในการซ่อมแซมเอง ซึ่งปัญหาเร่งด่วนในขณะนี้นอกจากปัญหาไฟไม่ส่องสว่างใช้การไม่ได้แล้ว นั่นคือการเดินสายไฟที่ไม่เรียบร้อย บางจุดอยู่ในท่อระบายน้ำ หากมีฝนตกหนักน้ำท่วมเต็มท่อระบายน้ำ อาจทำให้เกิดไฟฟ้ารั่ว เกิดอันตรายต่อทั้งพระ ทั้งเณร ทั้งนักท่องเที่ยว ตนจึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาแก้ไขเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน” เฉลิม กล่าว

ทางด้าน ปกรณ์ อารีกุล กล่าวว่า “ตนในฐานะลูกหลานคนนครศรีธรรมราช เรียนจบโรงเรียนวัดพระมหาธาตุ ได้รับทราบเรื่องนี้ ก็เกิดความรู้สึกไม่สบายใจ วันนี้จึงเดินทางมาร่วมตรวจสอบกับทางเครือข่ายภาคประชาชน เบื้องต้นต่อปัญหาเฉพาะหน้าเรื่องระบบไฟฟ้าที่เป็นปัญหาอยู่ ตนจะนำเสนอให้มีการหารือในสภาผู้แทนราษฎรต่อไป”

“ผมเชื่อว่าชาวนครโดยส่วนใหญ่ เห็นด้วยกับการขึ้นทะเบียนวัดพระธาตุเป็นมรดกโลก แต่ในวันนี้จากการรับฟังข้อมูลต่างๆจากทางวัดแล้ว อาจยังมีปัญหาและข้อจำกัด ในอีกหลายประเด็นที่จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากภาคส่วนต่างๆ ทั้งในระดับจังหวัดและระดับประเทศมาร่วมกันบูรณาการเพื่อการแก้ไขต่อไป” ปกรณ์ กล่าว

ทั้งนี้ ในวันจันทร์ที่ 14 พ.ย. 2565 กลุ่มเพื่อนพัฒนานคร ภาคประชาชนนครศรีธรรมราช เตรียมยื่นหนังสือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลั่นจะไม่ปล่อยให้ใครมาย่ำยี และต้องช่วยกันปกป้องพระธาตุไว้ พร้อมสนับสนุนให้พระธาตุเป็นมรดกโลกอย่างสมภาคภูมิต่อไป