นุสบา ปุณณกันต์ นักแสดง นางแบบ วัย 45 ปี โพสต์อินสตาแกรมส่วนตัว เป็นภาพฝุ่นละอองที่ปกคลุมประเทศไทยจากมุมสูงระหว่างอยู่บนเครื่องบิน โดยมีคำอธิบายใต้ภาพว่า “เมืองในมุ้งฝุ่น.. ปัญหาที่เกิดจากการสั่งสมมายาวนานนนนน... เราควรทำไงกันดีคะ แค่รถเมล์คงไม่พอ รถของพวกเรากันเอง หยุดวิ่งสัก 10 วันได้ไหม หยุดก่อสร้างสัก 10 วัน หยุดสร้างตึกสร้างคอนโดสร้างห้างแล้วสร้างสวน ต้นไม้เพิ่มนับจากนี้ เก็บเงินคนขับรถเข้าเมือง วิ่งรถวันคู่วันคี่ก็ต้องมีคนโวยวาย หยุดเผาด้วย...ถามตัวเราเองว่าพร้อมไหมที่จะช่วยกันทำสิ่งเหล่านี้ จะทำได้เหรอ... ใครมีแนวคิดที่ทำได้จริงบอกหน่อยนะ อยากรู้จริงๆ... ภาพนี้ถ่ายเองจากเครื่องบินเมื่อวาน”
โดยผู้ใช้โซเชียลต่างแสดงความคิดเห็นถึงวิธีการต่างๆ ที่จะช่วยลดฝุ่นละออง PM 2.5 ขณะที่บางส่วนกลับออกความคิดเห็นว่า “แนะนำให้ลองถามโฆษกรัฐบาลดูนะครับ” ซึ่งหลังจากเธอได้โพสต์ภาพดังกล่าวลงในอินสตาแกรมของเธอ ก็มีสื่อหลายสำนักนำไปลงข่าว โดยเฟซบุ๊ก ‘มติชนออนไลน์’ ได้ลงข่าวนี้ ซึ่งทำให้มีผู้ใช้โซเชียลมีเดียจำนวนมาก ร่วมแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวนี้ไปในแนวเดียวกัน คือ “ถามสามีคุณสิคะ”
ขณะที่วันนี้ นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ห่วงใยสถานการณ์ปัญหาฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐานเป็นอย่างยิ่ง โดยได้ให้กระทรวงศึกษาธิการสั่งหยุดโรงเรียนในพื้นที่ กทม. ตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 31 ม.ค.- ศุกร์ที่ 1 ก.พ.62 ทั้งโรงเรียนสังกัด สพฐ. อาชีวศึกษา และโรงเรียนเอกชน ส่วนโรงเรียนสังกัด กทม. ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้สั่งให้หยุดตั้งแต่ 12.00 น. วันนี้ สำหรับมหาวิทยาลัยให้อธิการบดีไปพิจารณาตามความเหมาะสม ขณะที่จังหวัดปริมณฑลให้ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจารณาประกาศเป็นพื้นที่ควบคุมพิเศษตามหลักเกณฑ์ โดยอาจสั่งปิดโรงเรียน ลดการเผาในที่โล่ง ตรวจสอบคุณภาพโรงงานต่อไป
โดยนายพุทธิพงษ์ ได้กล่าวว่า จะใช้เร่งเดินหน้าลดปริมาณฝุ่นตามมาตรการที่กำหนดไว้อย่างเข้มข้น เช่น ตรวจจับรถควันดำ ฉีดละอองน้ำจากตึกสูง ล้างถนน ปฏิบัติการฝนหลวง ฯลฯ เพื่อให้สถานการณ์ดีขึ้นโดยเร็ว และยังกล่าวอีกว่า นายกรัฐมนตรี ไม่อยากให้พี่น้องประชาชนตื่นตระหนก โดยยืนยันว่า รัฐบาลจะทำทุกอย่างให้ดีที่สุดตามแผนที่วางไว้ สำหรับปฏิทินการสอบ O-NET ของนักเรียนชั้น ป.6 และ ม.3 จะไม่มีการเลื่อนสอบแต่อย่างใด โดยขณะนี้กระทรวงศึกษาธิการ ได้มอบหมายให้โรงเรียนจัดสอนชดเชย จัดติวเพิ่มเติม หรือติวออนไลน์ เรียบร้อยแล้ว เพื่อไม่ให้กระทบต่อการสอบของนักเรียน
ก่อนหน้านี้ไม่นาน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้จัดเวทีแสดงทัศนะในหัวข้อ "ฝ่าวิกฤตรับมือฝุ่น PM 2.5" หรือฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน โดย รศ.ดร. ศิริมา ปัญญามาธีกุล ภาควิชาวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาฯ ระบุว่า สาเหตุของปัญหาฝุ่นควันในขณะนี้ เกิดจากสภาพอากาศที่ปิดในช่วงเปลี่ยนฤดู ประกอบกับสภาพเมืองที่มีตึกสูงอยู่มาก ฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่สามารถระบายออกไปได้ ซึ่งถือป็นปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้ และอีกปัจจัย คือจากแหล่งกำเนิด ที่มีการเผาไหม้แบบไม่สมบูรณ์ เช่น การเผาในที่โล่ง โรงงานอุตสาหกรรม โดยเฉพาะการคมนาคมขนส่งที่มีผลอย่างมาก
ด้าน รศ.ดร. มาโนช โลเตปานนท์ ผู้อำนวยการสถาบันการขนส่ง จุฬาฯ กล่าวว่า ภาคขนส่งเป็นปัญหาหลักของฝุ่นควัน ไม่เพียงกรุงเทพมหานครเท่านั้น แต่เป็นปัญหาของเมืองใหญ่หลายประเทศ ซึ่งเกิดตลอดเวลาอยู่แล้ว แต่ปัจจุบันที่มีความหนาแน่นสูง เนื่องจากสภาพอากาศที่ไม่สามารถระบายออกไปได้ ขณะที่ประเภทรถยนต์ที่ทำให้เกิดปัญหา คือ รถยนต์ดีเซล และรถเก่าที่ไม่ได้รับการบำรุงรักษา รวมถึงรถ ขสมก.ที่มีอายุการใช้งานเป็นเวลานาน มีควันดำ โดยยกตัวอย่างข้อมูล ในช่วงปีใหม่ค่าของมลพิษลดลงไปอย่างมาก เนื่องจากมีรถออกจากกรุงเทพฯ เป็นเวลานาน ซึ่งตรงข้ามกับสภาพปัจจุบัน
มาตรการที่สามารถทำได้เลย คือ การลดเที่ยวการเดินทาง ให้ประชาชนลดการใช้รถยนต์ส่วนตัวและหันมาใช้ขนส่งสาธารณะมากยิ่งขึ้น แต่หากเข้าขั้นวิกฤตแล้ว เสนอให้มีการหยุดเรียน เพราะสามารถแก้ไขปัญหาได้ 2 มิติ คือ ลดการใช้จราจรและลดอัตราการสัมผัสฝุ่นควันของเด็กนักเรียน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งกลุ่มเสี่ยง ที่ไม่ควรเผชิญมลพิษเป็นเวลานาน
ขณะที่โรงงานอุตสาหกรรมทั้งที่ใช้น้ำมันเตาและถ่านหินเป็นเชื้อเพลิงความร้อน ซึ่งมีอยู่มากที่พื้นที่ภาคกลางและภาคตะวันออก มีแนวโน้มการกระจายตัวใกล้เคียงกับกระกระจายตัวของฝุ่นควัน PM 2.5 ซึ่งอาจจะเป็นอีกสาเหตุหนึ่ง แต่ยังไม่สามารถระบุได้ เนื่องจากจำเป็นจะต้องมีการเก็บข้อมูลที่มากกว่านี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: