การเมือง
ไอลอว์นัด 24 มิ.ย. ยื่นสภา 1.3 หมื่นชื่อปลดอาวุธ คสช. - 5 พรรคฝ่ายค้านลุยแก้ รธน.
เครือข่ายภาคประชาชน นำโดย ไอลอว์ (iLaw) จัดกิจกรรม ‘วาระแรกประชาชนปักหมุด ปลดอาวุธ คสช.’ โดยร่วมกับ ตัวแทนพรรคการเมือง แถลงจุดยืน ในการเสนอร่าง พ.ร.บ.ยกเลิกประกาศ คำสั่ง คสช. และคำสั่งหัวหน้าคสช. 35 ฉบับ ที่มีเนื้อหาจำกัดสิทธิเสรีภาพ สิทธิพลเมือง สิทธิทางการเมือง ซึ่งขัดต่อหลักสิทธิมนุษยชน และหลักประชาธิปไตย ทั้งนี้เพื่อเปลี่ยนแปลงสถานการณ์บ้านเมืองให้เป็นไปในทางที่ดี และสอดคล้องกับการปกครองในระบอบประชาธิปไตย และให้ประชาชนได้รับการรับรองและถูกจำกัดเพียงเท่าที่จำเป็นตามกฎหมายในสถานการณ์ปกติ
โดยตัวแทนจากไอลอว์ นายยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ระบุว่า ต้องการให้ยกเลิก คำสั่ง คสช.ทั้ง 35ฉบับ โดยเฉพาะคำสั่งที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมเนื้อหาสื่อมวลชน ซึ่งกระทบต่อการนำเสนอข่าวสารอย่างเป็นอิสระ และคำสั่งที่เกี่ยวข้องสิ่งแวดล้อม ทั้งคำสั่งที่ให้เดินหน้าโครงการก่อนผ่านอีไอเอ คำสั่งตั้งนิคมอุตสาหกรรมไม่ใช้ผังเมืองและกฎหมายควบคุมอาคาร รวมถึงคำสั่งให้ทหารจับคนไปขังได้7วัน
ขณะที่เครือข่ายภาคประชาชน ต่างสะท้อนปัญหาที่ได้รับผลกระทบจากคำสั่งของ คสช.ในด้าน พื้นที่ทำเกษตรกรรม การจัดทำผังเมือง และการถูกจับกุมขณะที่ออกไปต่อสู้เรียกร้องในพื้นที่
5 พรรคฝ่ายค้านดันแก้ รธน. โละทิ้งคำสั่ง คสช. ขัดสิทธิ
ขณะเดียวกันยังมีเสียงสะท้อนจากพรรคการเมืองในงานเสวนาครั้งนี้ด้วย เริ่มที่ พล.ท.พงศกร รอดชมพู รองหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ บอกว่า กฎหมายที่ภาคประชาชนเสนอเป็นสิ่งที่ดีหากได้รับการแก้ไข และพรรคอนาคตใหม่เห็นด้วย และเดินไปด้วยกัน
ด้าน พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ บอกว่า รัฐธรรมนูญไม่ได้ทำหน้าที่รับใช้ประชาชน แต่ทำมาเพื่อรับใช้นายกรัฐมนตรี และไม่เปิดโอกาสให้กับประชาชน โดยส่วนตัวมองว่า การแก้ไขจะต้องแก้ไขที่ตัวรัฐธรรมนูญก่อน และการเสนอให้ยกเลิกคำสั่ง คสช. หลายฉบับที่เกี่ยวข้องกับสิทธิและกระบวนการยุติธรรม อย่างการสั่งควบคุมตัวได้ 7 วัน ถ้าหากไม่แก้จะเป็นการทำตามอำเภอใจ รวมถึงกฎหมายสิ่งแวดล้อมที่มีผลกระทบต่อประชาชน ซึ่งมองว่า ควรจะปฏิรูปกฎหมายที่ดินและสิ่งแวดล้อมใหม่
ด้านนายวิรัตน์ วรศสิริน รองหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย มองว่า ประชาชนถูกใช้เป็นเครื่องมือในการแก้รัฐธรรมนูญที่ผ่านมา และคำสั่งของ คสช.ที่ผ่านมา เป็นคำสั่งที่เอาเปรียบประชาชน ทั้งนี้จุดยืนของพรรคเสรีรวมไทย ไม่ต่างจาก 7 พรรคฝ่ายค้าน ต้องการมีระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ทั้งนี้การพยายามสืบทอดอำนาจโดยไม่คำนึงถึงจริยธรรม จะส่งผลร้ายต่อระบอบการปกครอง จึงต้องช่วยกันแก้ไขเพื่อให้เป็นอำนาจของประชาชนโดยแท้จริง
ส่วน นายวิโชติ วัณโณ รองหัวหน้าพรรคเพื่อชาติ กล่าวว่า พรรคไม่ยอมรับเผด็จการใดๆ ทั้งสิ้น และกฎหมายที่เป็นคำสั่งของ คสช.เป็นการออกโดยกลุ่มบุคคลกลุ่มหนึ่งเท่านั้น และมีผลประโยชน์กับคนที่ออกกฎหมายนี้เท่านั้น ซึ่งจะต้องมีการแก้ไข เพราะกฎหมายเหล่านี้ไม่ได้เกิดจากความต้องการของประชาชน และจะออกกฎหมายที่ส่งเสริมให้เสรีภาพขยายและก้าวหน้า และจะต้องไม่ทำลายเสรีภาพของประชาชน และการยื่นให้ยกเลิกคำสั่งนี้ ถือเป็นก้าวแรกที่แสดงให้เห็นการตื่นตัวของประชาชน และปักหลักล้างอำนาจของ คสช.
เช่นเดียวกับ พล.ท.ภราดร พัฒนาถาบุตร ที่ปรึกษาและหัวหน้าศูนย์สื่อสารข่าวสารเฉพาะกิจ (ศสส.) พรรคเพื่อไทย บอกว่า พรรคเพื่อไทยมีจุดยืนตรงกันในการปักหมุดและยุติผลพวงอำนาจ คสช. โดยจะมีการขับเคลื่อนว่ากฎหมายอะไรที่เป็นผลพวงการสืบทอดอำนาจจะยุติทั้งหมด
สำหรับวันที่ 24 มิ.ย. เวลา 09.30น. เครือข่ายภาคประชาชน จะนำรายชื่อทั้งหมดที่ได้ร่วมลงไว้ กว่า 13,000รายชื่อ ไปยื่นต่อสำนักเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร โดยจะรวมตัวกันที่กระทรวงการคลัง จากนั้นจะเดินไปสำนักงานเลขาธิการผู้แทนราษฎร ถนนประดิพัทธ์ ทั้งนี้เพื่อแสดงออกถึงการต่อสู้ทั้งในสภาและนอกสภา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
