นายจอน อึ๊งภากรณ์ ผู้อำนวยการโครงการอินเตอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน หรือ ไอลอร์ พร้อมด้วยนายนิมิตร์ เทียนอุดม จากเครือข่ายประชาชนเพื่อรัฐสวัสดิการ นายบารมี ชัยรัตน์ ผู้ประสานงานสมัชชาคนจน นายสุภาภรณ์ มาลัยลอย จากมูลนิธินิติธรรมสิ่งแวดล้อม นางสาวชลธิชา แจ้งเร็ว จากกลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย หรือ drg และนายยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ผู้จัดการไอลอร์ เข้ายื่นรายชื่อผู้ริเริ่มกิจกรรมปลดอาวุธคสช. 20 รายชื่อ พร้อมเสนอร่างพระราชบัญญัติยกเลิกประกาศ คสช. คำสั่ง คสช และคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ขัดกับหลักสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตย ต่อนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะประธานรัฐสภา

โดยหลังจากการยื่นเอกสารในวันนี้แล้ว องค์กรภาคประชาชนจะจัดกิจกรรมสื่อสารต่อสาธารณะ และพูดคุยกับตัวแทนของพรรคการเมืองถึงจุดยืนต่อข้อเสนอของประชาชนในวันที่ 23 มิถุนายน 2562 ที่ห้องประกอบ หุตะสิงห์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ และมีกำหนดการทำกิจกรรมนำรายชื่อทั้งหมด 13,409 รายชื่อ ส่งมอบต่อรัฐสภ่ในวันที่ 24 มิถุนายน 2562

นายนิมิตร์ กล่าวว่า ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมามีประกาศและคำสั่งที่ออกโดย คสช.ไม่น้อยกว่า 500 ฉบับ ซึ่งพบว่าแต่ละฉบับได้ริดลอนสิทธิเสรีภาพและอำนาจของประชาชน ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาจึงเป็นช่วงหวานอมขมกลืนกับภาวะและสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้ง 23 เครือข่ายซึ่งมีไอลอร์เป็นหัวเรือใหญ่ จึงร่วมกันคิดว่าจะปล่อยให้ประกาศและคำสั่งของ คสช.อยู่เป็นกฎหมายต่อไปไม่ได้ จึงได้จัดทำกิจกรรม "ปลดอาวุธ คสช." ขึ้นมา ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ฝ่ายปกครองไม่ชื่นชอบ

นายยิ่งชีพ กล่าวว่า มีประชาชนร่วมลงชื่อในกิจกรรมนี้กว่า 13,409 คน เพื่อร่วมกันแสดงเจตนารมณ์ว่าต้องการยกเลิกประกาศและคำสั่ง คสช.จำนวน 35 ฉบับ ซึ่งเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสิทธิเสรีภาพประชาชน การนำพลเรือนขึ้นศาลทหาร การให้ทหารมีอำนาจในการจับกุมประชาชนแล้วนำไปขังในค่ายทหาร 7 วัน การควบคุมสื่อมวลชน รวมถึงการให้ทหารเข้ามายึดที่ดินทำกินของเกษตรกร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นับตั้งแต่เดือนมกราคม 2561 องค์กรภาคประชาชน 23 เครือข่าย ร่วมกันทำกิจกรรมใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 113 (3) ชักชวนประชาชนทั่วประเทศเข้าชื่อให้ครบ 10,000 รายชื่อ เพื่อเสนอ "ร่าง พ.ร.บ.ยกเลิกประกาศ คสช. และคำสั่งของ คสช. และคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ขัดกับหลักสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตย" รวม 35 ฉบับ หรือที่เรียกว่า กิจกรรม"ปลดอาวุธ คสช. ทวงคืนสถานการณ์ปกติ"