นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ และเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พร้อมด้วยว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. สมุทรปราการ พรรคพลังประชารัฐ ทั้ง 7 เขต ได้แก่ นายอัครวัฒน์ อัศวเหม นายวรพร อัศวเหม นายต่อศักดิ์ อัศวเหม น.ส.ภริม พูลเจริญ นายจาตุรนต์ นกขมิ้น นายกรุงศรีวิไล สุทินเผือก นายฐาปกรณ์ กุลเจริญ น.ส.ไพลิน เทียนสุวรรณ เข้ากราบไหว้สักการะศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสมุทรปราการ พร้อมจุดเทียนสีแดงคู่ ที่เขียนข้อความพรรคพลังประชารัฐ เพื่อเป็นสัญลักษณ์เอาฤกษ์เอาชัยถึงแสงสว่างในการเลือกตั้ง เพราะถือเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของชาว จ.สมุทรปราการ เพื่อเอาฤกษ์เอาชัยในโอกาสที่มาหาเสียงในพื้นที่
จากนั้นนายสนธิรัตน์ และบรรดาว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ทั้งหมดได้เดินพบปะทักทายกับประชาชนอย่างเป็นกันเอง พร้อมกับรับฟังเสียงสะท้อนเรื่องราคาสินค้า ขณะเดียวกันก็ได้แนะนำตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ให้ประชาชนที่มาจับจ่ายซื้อสินค้าในตลาดสดปากน้ำได้รับทราบ รวมทั้งได้ชี้แจงอุดมการณ์และแนวนโยบายการสร้างสวัสดิการถ้วนหน้าภายใต้นโยบาย 7-7-7 ที่สอดรับกับ 3 พันธกิจ คือ สวัสดิการประชารัฐ สังคมประชารัฐ และเศรษฐกิจประชารัฐ
นายสนธิรัตน์ ให้สัมภาษณ์ว่า การลงพื้นที่ จ.สมุทรปราการในครั้งนี้เพื่อไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ซึ่งถือเอาฤกษ์เอาชัยและเชื่อมั่นว่าประชาชนชาว จ.สมุทรปราการจะไว้วางใจพรรคพลังประชารัฐ ในส่วนของพรรคพร้อมเดินหน้าอย่างเต็มที่ในการสู้ศึกเลือกตั้งและมั่นใจว่าจะได้ ส.ส. ทั้ง 7 เขตในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ ซึ่งพรรคพลังประชารัฐมีความพร้อมทั้งนโยบายและตัวผู้สมัคร และอาสาเข้ามาเป็นทางออกของประเทศไม่ให้กลับไปสู่วังวนเดิม
สำหรับรายชื่อผู้สมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขตและแบบบัญชีรายชื่อในวันที่ 29 ม.ค.นี้ ช่วงบ่าย จะมีการหารือเป็นรอบสุดท้ายของคณะกรรมการสรรหา และวันที่ 30 ม.ค. คณะกรรมการบริหารจะมีการลงมติ ซึ่งขณะนี้ยังเหลือผู้สมัครอีกเพียง 11 เขตเท่านั้นที่ยังมีปัญหาแต่คาดว่าจะเสร็จภายใน 2-3 วันนี้รวมถึงการพิจารณาบัญชีรายชื่อตำแหน่งนายกรัฐมนตรีด้วย
ส่วน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีจะยังเป็นเบอร์ 1 หรือไม่ขณะนี้ต้องรอเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารอีกครั้ง เพราะการคัดเลือกต้องอยู่ในกระบวนการพิจารณาของคณะกรรมการบริหารพรรค
นายสนธิรัตน์ ยังย้ำว่าส่วนประเด็นการลาออกของ 4 รัฐมนตรีเมื่อถึงเวลาจะบอกเอง