วันที่ 3 ม.ค. พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) ย้ำว่า กองทัพเรือยังคงเดินหน้าภารกิจค้นหากำลังพล 5 รายที่ยังสูญหาย ไม่ได้ลดกำลังพลแต่อย่างใด ยังคงปรับกำลังจัดชุดค้นหาในพื้นที่ที่คิดว่าผู้เสียชีวิตจะลอยอยู่ เช่น ตามเกาะต่างๆ ได้ส่งหน่วยปฏิบัติการพิเศษ และใช้เรือยางขนาดเล็กตามเกาะแก่งใน จ.ชุมพร จ.ประจวบคีรีขันธ์ รวมถึงของบสนับสนุนจาก อบจ. และหน่วยงานต่างๆ พร้อมเผยว่ากองทัพเรือยังหวังว่าจะเจอปาฏิหาริย์อยู่ และครอบครัวก็ยังมีความหวัง
ส่วนความคืบหน้าในการตั้งคณะกรรมการสืบหาข้อเท็จจริงกรณีเรือลำปาง กองทัพเรือได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวน 2 คณะ คณะแรกจะสอบสวนถึงสาเหตุที่ทำให้เรืออับปาง ส่วนคณะที่ 2 จะดูขั้นตอนการปฏิบัติการตั้งแต่ก่อนเรือจม ได้ปฏิบัติตามขั้นตอนอย่างไร รวมถึงปฏิบัติการค้นหา ซึ่งขณะนี้ผลการสอบสวนยังไม่ออกมา
"คณะกรรมการที่สอบสวน นอกจากจะสอบกำลังพลที่รอดชีวิตมาแล้ว จะต้องสอบสวนถึงบุคคลภายนอก เช่น เรือสินค้า เรือน้ำมัน ที่เข้ามาช่วยเหลือกำลังพล ว่าทราบเหตุ และเข้ามาช่วยเหลือได้อย่างไร มีวิธีปฏิบัติอย่างไร ขั้นตอนการสอบสวนยังต้องใช้เวลา และผมไม่ได้เร่งรัดว่าต้องกำหนดเสร็จเวลาใด ให้ดูจากเวลาและปริมาณงานว่าจะต้องใช้เวลาเท่าใด ซึ่งเมื่อทราบผลสอบสวนก็จะเผยให้ประชาชนรับทราบ"
ส่วนกรณีในวันเกิดเหตุ ไม่มีต้นเรือกลออกเรือไปด้วยนั้น ผบ.ทร. ชี้แจงว่า ก็คงต้องระบุเพิ่มไปในการสอบสวนของคณะกรรมการทั้งหมด
สำหรับแผนกู้เรือ ต้องรอวันเวลาที่เหมาะสม รวมถึงทิศทางลมและระดับน้ำในทะเล ก่อนหน้านี้ได้ลงสำรวจจุดที่เรือจม เพื่อวางแผนกู้เรือ ซึ่งทั้งหมดต้องใช้เวลา เพราะต้องพิจารณาวิธีการและบริษัทที่จะมาทำการกู้เรือได้ ที่สำคัญคืองบประมาณที่ต้องใช้ ขั้นตอนทั้งหมดจึงต้องใช้เวลา ซึ่งคณะกรรมการยังไม่ได้เสนอแผนขึ้นมา แต่มีบริษัทเอกชนที่มีความชำนาญเสนอวิธี ซึ่งกองทัพเรือจะเลือกบริษัทที่มีข้อเสนอที่ดีที่สุด และใช้งบประมาณอย่างจำกัดที่สุด
ส่วนบทลงโทษของผู้บังคับบัญชาในหน่วยงานที่ต้องรับผิดชอบ เมื่อผลสอบสวนออกมานั้นจะเป็นอย่างไร ผบ.ทร.เผยว่า ตามระเบียบข้อบังคับของกระทรวงกลาโหม ความรับผิดในทางละเมิดกรณีที่ทรัพย์สินทางราชการเสียหาย หรือสรรพาวุธเสียหาย มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนในทางละเมิด โดยต้องเสนอเรื่องให้ผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น คือ กองบัญชาการกองทัพไทย เสนอไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และกระทรวงการคลัง ในกรณีมีทรัพย์สินและสรรพาวุธของกองทัพเรือเสียหาย
"ซึ่งเท่าที่ทราบ ในเรือหลวงสุโขทัยก็มีสรรพาวุธที่นำไปและยังจมอยู่กับเรือ อาทิ ลูกปืน วัตถุระเบิด โดยทั้งหมดจะต้องสอบสวนหามูลค่าของทรัพย์สินว่ารวมแล้วเท่าไหร่ และต้องเสนอข้อมูลตามลำดับชั้น รวมถึงสาเหตุ เพื่อหาว่ามีผู้ใดต้องรับผิดทางละเมิดหรือไม่ เพื่อมาชดใช้ค่าเสียหาย หากประเมินแล้วเป็นการกระทำให้สูญเสียทรัพย์ของทางราชการ ซึ่งกองทัพเรือมีคณะกรรมการที่จะตรวจสอบอุบัติเหตุและความเสียหาย โดยมีเจ้ากรมจเรทหารเรือเป็นผู้รักษาระเบียบ และกำหนดแนวทางที่เป็นบทเรียน เพื่อแก้ไขและป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำ"
ผู้สื่อข่าวได้ถามย้ำถึงข้อมูลการซ่อมเรือ ซึ่ง ผบ.ทร.ย้ำว่า ยังต้องอยู่ในผลการสอบสวน แต่ตอนนี้ยังไม่สามารถให้รายละเอียดได้ เนื่องจากข้อมูลที่มาจากราชการต้องมีความถูกต้อง ไม่สามารถชี้แจงโดยอำเภอใจได้
ส่วนที่ ยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย โยงว่าเครื่องยนต์ของเรือหลวงสุโขทัย เป็นประเภทเดียวกับเรือดำน้ำจากจีน ยืนยันว่า ไม่ใช่เครื่องยนต์เดียวกัน แต่เป็นอักษรเดียวกันคือ MTU เหมือนกันเท่านั้นเอง อาจจะสื่อสารผิดพลาด เรือของกองทัพเรือ 80% ใช้เครื่อง MTU แต่มีหลายรุ่นและหลายแบบ จึงอาจจะไปโยงว่าอักษรเดียวกัน แต่ไม่ใช่เครื่องชนิดเดียวกัน
ในช่วงท้าย ผบ.ทร. ยังกล่าวว่า ตนได้รายงานความคืบหน้าทั้งการสอบสวนและการค้นหากำลังพลให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ทราบโดยตลอด