การเมือง
ลูกสาว 'สายัณห์ พปชร.' สวนแนวคิดพ่อ ลั่นไปม็อบเพราะไม่อยากให้อนาคตพัง
จากกรณี สายัณห์ ยุติธรรม ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคพลังประชารัฐ ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าว่า ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ อยู่เบื้องหลังการใช้โซเชียลมีเดีย ยุแยงเยาวชนไร้เดียงสาที่ยังคิดไม่ได้ รวมถึงลูกสาวตนเป็นแนวร่วมม็อบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในทวิตเตอร์มีผู้ใช้รายหนึ่งอ้างว่าเป็นลูกสาวของสายัณห์ ได้ทวีตข้อความตอบโต้ประเด็นดังกล่าว ระบุว่า เราคือลูกส.ส.คนนั้นที่อยู่ ม.3 เองค่ะ ขอเล่าในมุมของเราบ้างนะคะ กลัวคนเข้าใจผิดว่าเป็นสลิ่ม แล้วอีกอย่างคือเราเป็นคนบอกพ่อในมุมมองความคิดของเราเอง ไม่รู้ว่าเขาจะตีความยังไง เพราะตอนพูดเราหวังแค่ให้พ่อได้เห็นมุมมองของเด็กรุ่นใหม่เฉยๆ
เกริ่นก่อนนะคะเมื่อก่อนเราก็มีความคิดเหมือนพ่อเรา แต่พอโตขึ้นมาเรียนที่กรุงเทพฯ พอเริ่มเจอสังคมใหม่ๆ มาเล่นทวิตเตอร์ ความคิดก็เริ่มเปลี่ยนเรื่อยๆ เราเริ่มรู้เรื่องนู้น เรื่องนี้ ตอนก่อนเลือกตั้งไม่นาน ดังนั้นตอนเลือกตั้งเราเลยแบบ 50- 50 ยังไม่ได้เลิกเป็นสลิ่มด้วยซ้ำ จริงๆเลิกเป็นสลิ่ม 100% แค่ไม่ถึง 2 ปีเองค่ะ อันนี้ต้องขอโทษจริงๆ เพราะรู้สึกว่ากว่าความคิดที่ถูกปลูกฝังมาตั้งแต่เด็กจะหายไป ใช้เวลาที่เราเข้าใจผิดมาตั้ง 12-13 ปี เลย
พอเราเริ่มมีความคิดเป็นของตัวเอง อ่านเรื่องนู้น เรื่องนี้แล้วตาสว่าง เราก็อยากให้พ่อได้รู้ว่า สิ่งที่พ่อคิดมาตลอดมันอาจจะไม่ได้เป็นอย่างนั้นก็ได้นะ อย่างเรื่องที่เราบอกว่าจบไปไม่มีงานทำ เราว่าเราพูดไม่ผิดนะคะ เพราะถ้านายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันยังอยู่บริหารประเทศแบบนี้ เอางบไปใช้กับอะไรไม่รู้ การขนส่งสาธารณะไม่ดีขึ้น คุณภาพชีวิตตกต่ำลง ค่าครองชีพสูงขึ้น ไม่มีงานทำแน่ๆ
เราบอกพ่อว่าจะไปม็อบเพราะเราจะไม่ยอมให้อนาคตตัวเองพังแน่ๆ แต่พ่อบอกว่าอยากให้รออายุ 18 ปี ก่อนแล้วค่อยไป เพราะยังเด็กอยู่ ส่วนเรื่องความเห็นต่างเขาก็ไม่ได้ว่าอะไร เพิ่งมาเห็นว่าเขาตีความเรื่องที่เราพยายามพูดว่าเป็นเรื่องล้างสมองก็ตอนเห็นข่าวนี่แหละ
เราพยายามพูดมาตลอดว่าคนที่พ่อเข้าใจหรือถูกปลูกฝังว่าดีอะ เขาไม่ได้ดีนะ พอมีข้อมูลที่หักล้างที่พ่อเคยเข้าใจได้เราก็เอาไปพูดกับเขาตลอด เพราะหวังว่าเขาจะคิดอะไรได้บ้าง เข้าใจเด็กรุ่นใหม่บ้าง แต่นั่นแหละค่ะ เริ่มท้อแล้วเหมือนกัน สุดท้ายเขาก็คิดว่าเราก็แค่เด็ก หรือโดนล้างสมองมา
ทวิตเตอร์ดังกล่าว ยังระบุว่า รู้สึกอึดอัดมานานเหมือนกัน อยู่โรงเรียนพอบอกว่าพ่อเป็นใครเพื่อนก็จะคิดว่าเป็นสลิ่มตลอด เลยพยายามแสดงจุดยืนมาตลอด เราจะไม่ยอมเด็ดขาด และมันยากมากๆ ที่ต้องนั่งร่วมโต๊ะกับสลิ่มที่ความคิดกู่ไม่กลับอยู่ตลอด พอเถียงก็จะโดนว่า นั่นแหละเด็กมันยังไม่รู้เรื่อง โดนล้างสมอง
ตามในข่าวนะคะ ตอนเลือกตั้งยังสลิ่มอยู่เพราะถูกปลูกฝังอย่างงั้นมา เลยไปช่วยพ่อหาเสียงไม่ต้องเอาไปแหกไปด่านะคะ ทุกคนล้วนมีวันแรกที่เลิกเป็นสลิ่ม
เราไม่ได้ทะเลาะกับที่บ้านนะคะ อันนี้เราชี้เเจงในมุมของเรา ซึ่งคิดต่างมันไม่ผิดอยู่แล้ว มีคนบอกว่าถ้าออกมาแล้วมีปัญหาทำเท่าที่ทำได้ก็ได้ ขอบอกว่าสำหรับเราพ่อแม่มีหน้าที่เลี้ยงเราอยู่แล้วค่ะ ไม่ว่าจะมีความคิดตรงหรือต่าง เขาเป็นคนสร้างเราขึ้นมาเอง เราแค่มีความคิดเป็นของตัวเอง เราว่าเราก็ไม่ได้ผิดอะไรนะคะ ถ้าพ่อเลือกจะทิ้งหรือไม่เลี้ยงเรา เราก็มีสิทธิเรียกร้องของเราได้
"ขอฝากอีกอย่างนะคะ ที่เด็กรุ่นใหม่ควรจะเป็นคนบริหารประเทศมากกว่าคนรุ่นเก่า ส่วนตัวหนูคิดว่าเพราะสิ่งที่เขาคิดว่ามันทันสมัยมากๆ มันล้าสมัยไปแล้วค่ะ อย่างพ่อของหนู เขามีความคิดจะสร้างอะไรมากมาย แต่พอเขาอธิบายรูปร่าง หลายๆคนอาจจะรู้ว่าเขามีแพลนจะสร้างสะพาน พอหนูฟังเขาบรรยายสะพานที่ตั้งใจจะสร้าง เขามีความคิดว่ามันดูทันสมัยมากๆ แต่ในสายตาหนู คือมันล้าสมัยไป 20 ปีแล้ว ถ้าต้องการให้มันทันสมัย หรือมีประโยชน์เหมาะสมกับภูมิประเทศจริงๆ หรือดูไม่เก่า น่าจะเปิดใจรับฟังคนที่เรียนจบมาใหม่ หรือให้เขาช่วยออกแบบให้อะไรแบบนี้ มากกว่ามาคิดเองว่า แบบนี้คือสวยแล้วนะ แบบนี้คือทันสมัยแล้วนะ ถ้า ส.ส.หลายๆ คนมีความคิดแบบนี้ สิ่งที่สร้างในตอนนี้คงเหมือนสิ่งที่สร้างมาแล้ว 20 ปี แต่ส่วนใหญ่มักจะไม่เปิดใจรับฟัง และคิดว่าสิ่งที่ตัวเองทำดีที่สุดแล้ว อยากให้เปลี่ยนความคิดตรงนี้มากๆเลยค่ะ ไม่งั้นไม่ต้องสร้างสะพานใหม่ทุกสองปีเลยหรอคะ"
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
