ก่อนหน้านี้ กระทรวงกลาโหมรัสเซียระบุว่า จะมีการเปิดทางหนีให้แก่พลเรือนยูเครนในการอพยพออกจากท่าเรือซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์ในเมืองมารีอูปอล ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของยูเครน และเมืองทางตะวันออกอย่างวอลโนวาคา โดยจะมีการหยุดยิงตั้งแต่เวลา 9.00 - 16.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น และจะเปิดให้มีการอพยพประชาชนตั้งแต่เวลา 11.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น โดยระเบียงมนุษยธรรมจะเปิดตั้งแต่เมืองมารีอูปอลไปยังซาปอริซเซีย
อย่างไรก็ดี จากรายงานล่าสุดของสำนักข่าว BBC ระบุว่า รัสเซียไม่ได้ส่งเจ้าหน้าที่จากกองทัพของตนเองเข้าสังเกตการอพยพของประชาชนชาวยูเครนบนเส้นทางออกจากเมืองมารีอูปอล ทั้งนี้ รายงานยังได้เปิดเผยว่ายังคงมีเสียงปืนยิงถล่มกันที่บริเวณซาปอริซเซีย ซึ่งเป็นปลายทางของระเบียงมนุษยธรรมที่รัสเซียตกลงเองว่าจะเปิดทางและหยุดยิงให้ประชาชนชาวยูเครนอพยพอย่างปลอดภัย
ทั้งนี้ ทางการยูเครนยืนยันว่าทางการรัสเซียเป็นคนรับรองการหยุดยิงชั่วคราวเอง ตลอดทั้งเส้นทางการอพยพของประชาชนผู้บริสุทธิ์แต่แรก ขณะที่ผู้สื่อข่าวของ BBC ระบุว่า ยังคงมีการยิงถล่มกันในเมืองมารีอูปอล “ฝั่งรัสเซียยังคงทิ้งระเบิดใส่พวกเรา และใช้ปืนใหญ่ยิงใส่เรา มันบ้ามาก” เซอร์ฮีย์ ออร์ลอฟ รองผู้ว่าราชการเมืองมารีอูปอลระบุกับ BBC
“มันไม่มีการหยุดยิงในมารีอูปอล และมันไม่มีการหยุดยิงตลอดเส้นทางการอพยพ ประชาชนของเรามีความพร้อมที่จะหนีออกไปแล้ว แต่พวกเขาไม่สามารถหนีออกไปได้ภายใต้การยิงถล่มอยู่” ออร์ลอฟระบุ
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 3 มี.ค. ยูเครนกับรัสเซียได้ตกลงกันที่จะเปิดระเบียงมนุษยธรรม เพื่อเปิดทางให้ประชาชนสามารถอพยพได้อย่างปลอดภัย อย่างไรก็ดี ยังไม่มีข้อตกลงใดๆ เพิ่มเติมตามที่ยูเครนประสงค์ โดยทั้งสองฝ่ายได้เข้าใจถึงหลักการพื้นฐานในการส่งยาและอาหารเข้าไปยังพื้นที่ที่กำลังเกิดการต่อสู้อย่างดุเดือด โดยการตกลงในครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ทั้งสองชาติเห็นพ้องต้องกันในหลักการ หลังจากที่รัสเซียตัดสินใจรุกรานยูเครนตั้งแต่สัปดาห์ก่อน
ที่มา: