ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้สมัครผู้ว่ากทม.ฯ เบอร์ 8 ลงพื้นที่เขตจตุจักร โดยเริ่มต้นจากตลาดหลัง ปตท. ถ.วิภาวดีรังสิต และตลาดนัด กม.11 พูดคุยและสำรวจปัญหาจากผู้ค้าขายและประชาชนในพื้นที่ จากนั้นหาเสียงต่อที่ตลาดราชวัตร เขตดุสิต พร้อมรับฟังปัญหาจากผู้ค้าแผงลอย ชัชชาติเน้นย้ำนโยบาย "เศรษฐกิจดี" สร้างความมั่นคงให้กับกลุ่มผู้ค้าแผงลอยในการจัดหาแหล่งทุน และพื้นที่ในการค้าขาย ผลักดันให้เกิด Hawker Center พื้นที่ค้าขายสำหรับผู้ค้าแผงลอยที่ไม่เบียดบังคนเดินเท้า
ทั้งนี้ จากเหตุปะทะระหว่างอาสาสมัครกู้ภัยบริเวณ ถ.พระราม 4 จนมีผู้เสียชีวิต 1 ราย ชัชชาติ กล่าวว่า ปัจจุบัน กทม. ยังต้องพึ่งพาเครือข่ายเอกชนที่อาสาทำงานกู้ชีพ-กู้ภัย เนื่องจากยังมีบุคลากรและอุปกรณ์ไม่เพียงพอ ดังนั้น เพื่อป้องกันปัญหาทะเลาะวิวาท กทม. ต้องสร้างแนวทางประสานงานและแบ่งความรับผิดชอบระหว่างหน่วยงานเอกชนที่อาสาเข้ามาทำงานอย่างชัดเจน เพื่อให้การทำงานระหว่าง กทม.และหน่วยกู้ภัย รวมทั้งระหว่างหน่วยกู้ภัยด้วยกัน เป็นไปอย่างราบรื่น
นอกจากนี้ ชัชชาติ ได้ย้ำนโยบาย "ปลอดภัยดี" ด้วยการพัฒนาบัญชีอุปกรณ์ดับเพลิงในระดับย่านและทบทวนรายการอุปกรณ์ให้ตรงกับความเป็นจริง เพื่อทราบจำนวนและทราบความพร้อมของอุปกรณ์ ทั้งนี้ เนื่องจากกรุงเทพฯ มีอาคารหลากหลายรูปแบบกระจุกในแต่ละย่าน เช่น ชุมชน อาคารพาณิชย์ อาคารสูง ฯลฯ นอกจากนี้ ยังมีนโยบายพัฒนาหลักสูตรอบรมทักษะรับมือสาธารณะภัย เช่น โครงสร้างถล่ม อัคคีภัยบนอาคารสูง เพื่อให้เจ้าหน้าที่และอาสาสมัครมีความพร้อมในการเผชิญเหตุมากยิ่งขึ้น
"ปัญหาที่เราจะเจอในหลาย ๆ ครั้งเช่นเมื่อตึกถล่ม อาสาสมัครเข้าไปแล้วเสียชีวิตเนื่องจากไม่มีการประสานงานที่เข้มข้น หลายที่ในชุมชนอุปกรณ์ดับเพลิงไม่เพียงพอ เรื่องอุปกรณ์ต้องเพียงพอ ต้องมีการอบรม มีศูนย์บัญชาการที่ประสานงาน มีการฝึกซ้อม เรื่องนี้ต้องขยับปัดฝุ่น และต้องมีการซักซ้อม เพราะว่าเป็นเรื่องสำคัญ" ชัชชาติกล่าว