ไม่พบผลการค้นหา
‘ศรีสุวรรณ’ ร้อง กกต. สอบผู้สมัคร ส.ส. 'พลังประชารัฐ-เพื่อไทย' มีหุ้นสื่อ รื้อปม ‘สนธิรัตน์’ หาเสียงสัญญาจะให้เงินบัตรคนจน ไม่หวั่น ‘ธนาธร’ ขู่ฟ้องกลับ ยันทำหน้าที่ไม่เลือกที่รักมักที่ชัง

นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นคำร้องต่อ กกต. เพื่อตรวจสอบการเป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนของนายชาญวิทย์ วิภูศิริ ผู้สมัค ส.ส. กรุงเทพมหานคร พรรคพลังประชารัฐ เป็นกรรมการบริษัทภัทรเฮ้าส์แอนด์พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ประกอบกิจการให้บริการสื่อสารมวลชน ได้แก่หนังสือพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์และประชาสัมพันธ์ และขอให้ตรวจสอบ พล.ต.ต.ลัทธสัญญา เพียรสมภาร ผู้สมัคร ส.ส. บัญชีรายพรรคเพื่อไทยลำดับ 69 เป็นกรรมการบริษัทมอร์รีเทิร์น จำกัด (มหาชน) ประกอบกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ กิจการโทรคมนาคม การสื่อสารทุกชนิด และเป็นกรรมการบริษัทดีเอ็นเอ 2002 จำกัด ประกอบกิจการให้บริการรับชมภาพ และรับฟังเสียงจากสัญญาณระบบดิจิทัล และนายนพชัย ศรีสุวนันท์ ผู้สมัคร ส.ส. บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 85 เป็นกรรมการบริษัท เจ-บิ๊คส์ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด ประกอบกิจการถ่ายทำภาพยนตร์ วิดีโอเทป จัดให้มีการแสดง จัดสร้างภาพยนตร์ ละคร ดนตรี มหรสพ หรือการแสดงอื่นๆ โดยทั้งหมดนี้ขอให้เพิกถอนการประกาศรับรองเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้ง และขอให้ใช้อำนาจตาม พ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 151 ระบุว่าผู้ใดรู้อยู่แล้วว่าไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง แต่ยังสมัคร ต้องระวางโทษจำคุก 1-10 ปี ปรับ 2 หมื่น -2 แสนบาท และให้ศาลาสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 20 ปี ทั้งนี้ขอให้กกต. ตรวจสอบกรณีดังกล่าวให้เป็นมาตรฐานเดียวกันกับกรณีนายธนาธร

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า นอกจากนี้ยังขอให้ กกต. ตรวจสอบและวินิจฉัยเอาผิดกรณี นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียงให้กับผู้สมัคร ส.ส. พรรคพลังประชารัฐที่ อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี โดยสัญญาว่าจะเพิ่มเงินบัตรคนจน เข้าข่ายเสนอให้สัญญาว่าจะให้อันเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 73(1) และหรือ (2) ประกอบมาตรา 158 แห่ง พ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. 2561หรือไม่ด้วย

นายศรีสุวรรณ ยังกล่าวถึงกรณีที่นายธนาธรขู่จะฟ้องกลับกรณียื่นให้ กกต. เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งกรณีถือหุ้นสื่อฯว่า เป็นสิทธิของนายธนาธรที่จะฟ้องตนก็ยินดี และตนจะฟ้องกลับเช่นเดียวกันในฐานะที่นายธนาธรเอาความเท็จมาชี้แจง การยื่นร้องเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญของประชาชน ขณะนี้กำลังดูเอกสารที่นายธนาธรจะโพสต์ออกมาเป็นอย่างไร ถ้ายังไม่พอใจก็จะแสวงหาข้อมูลมายื่นเพิ่มเติมต่อ กกต. ทั้งนี้ตนไม่เคยกลัวการพูดจาของนักการเมืองเพราะถือว่าบริสุทธิ์ใจในการทำหน้าที่ ไม่เคยเลือกที่รักมักที่ชังร้องทุกพรรคอยู่แล้วหากมีข้อมูล ถ้านายธนาธรไม่ผิดก็จะได้ประโยชน์ต่อตัวเขาเอง สามารถไปพูดกับฐานเสียงได้ว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ ก้าวเข้าสู่การเมืองอย่างสง่างาม