ไม่พบผลการค้นหา
'ศุภชัย' จวกสมาชิกฯ ยังไม่ทันอ่านร่าง พ.ร.บ.กัญชาฯ ก็ถอนแล้ว เล่นการเมืองเกินความเดือดร้อนประชาชน ส่วนตัวไม่ถือสาแต่ขออย่าหยามกัน ยันใช้กัญชาทางการแพทย์

วันที่ 16 ก.ย. 2565 ที่อาคารรัฐสภา ศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติกัญชา กัญชง รับยื่นหนังสือจาก เครือข่ายกัญชาภาคประชาชน นำโดย ธนโชค เธียรรุ่งโรจน์ ประธานวิสาหกิจชุมชนสมุนไพรออร์แกนิคเขาฉกรรจ์ จ.สระแก้ว เพื่อขอให้เร่งรัดออกกฎหมายกัญชา กัญชง สู่การประกาศใช้โดยเร็ว

โดย ศุภชัย กล่าวภายหลังรับยื่นหนังสือว่า ตนไม่ทราบถึงปัญหาที่เกิดขึ้นในสภาผู้แทนราษฎรต่อการถอนร่าง พ.ร.บ.กัญชาฯ นั้นเกิดจากอะไร ซึ่งหาก ส.ส.ได้อ่านร่างกฏหมายฉบับของพรรคภูมิใจไทยจริง จะไม่ลุกขึ้นต่อว่าร่างกฎหมายฉบับนี้ว่ามีข้อบกพร่องเพื่อให้กลับไปทบทวน ซึ่งตามร่างกฏหมายเดิมมีเพียง 45 มาตรา และในชั้นกรรมาธิการได้พิจารณาเพิ่มเติมเป็น 95 มาตรา เพื่อให้ร่างกฏหมายมีความสมบูรณ์ครบถ้วน และสามารถยืนยันได้ว่าภายในร่างกฏหมายไม่มีมาตราใดที่บัญญัติให้กัญชาใช้เพื่อนันทนาการ กฎหมายเขียนไว้อย่างเข้มข้นโดยไม่อนุญาตให้ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี บริโภคกัญชา ซึ่งหากฝ่าฝืนจะมีโทษทางอาญา โดยยืนยันว่ากัญชาตามร่าง พ.ร.บ.นี้ เป็นกัญชาทางการแพทย์ และไม่ได้เป็นไปตามข้อกล่าวหาที่เกิดขึ้นในสภา 

S__42278934.jpg

“ที่ท่านเสนอให้ถอดร่างพระราชบัญญัติกัญชา กัญชง ออกจากวาระการประชุมเพื่อไปทบทวนนั้นเป็นการดำเนินการที่ไม่ชอบด้วยวิธีทางนิติบัญญัติเพราะท่านยังไม่ได้เริ่มเข้าสู่การพิจารณาเช่นกฎหมายอื่นเลย สิ่งที่ท่านทำท่านไม่ได้ใส่ใจต่อความเดือดร้อน ความยากลำบากของประชาชนในเขตพื้นที่ของท่าน” ศุภชัย กล่าว

ทั้งนี้ มีประชาชนจำนวนมากที่ต้องการใช้กัญชาเพื่อรักษาโรค ส.ส. ต่างก้าวข้ามสิ่งเหล่านี้ไป เล่นการเมืองมากไป ในนามของพรรคภูมิใจไทยจะทำทุกวิถีทาง ไม่ให้ใครนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติดอีกครั้ง เหมือนที่พรรคประชาธิปัตย์ และพรรคเพื่อไทยต้องการ และในนามของประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ และกรรมาธิการทุกคนมีความเห็นพ้องต้องกันว่า ที่เราทำมาเป็นร่าง พ.ร.บ.ที่สมบูรณ์ที่สุด

ด้วยการที่ไม่สามารถที่จะเร่งรัดให้มีกฎหมายออกมาควบคุมและคุ้มครองการใช้กัญชานั้น หากล่าช้าไปจะมีผลเสียหายต่อบ้านเมืองนี้ จึงขอตั้งคำถามกลับไปว่าท่านเป็นห่วงเยาวชนจริงหรือไม่ ซึ่งหากเป็นห่วงเยาวชนจริงก็ควรเร่งรัดออกกฏหมายให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว แต่เมื่อมีบัญชามาว่าให้ถอนร่างกฎหมายไปโดยเสียงข้างมาก ตนก็น้อมรับคำบัญชา

“ผมยังยืนยัน ณ วันนี้ว่า ไม่มีใครสักคนในสภาผู้แทนราษฎรที่ศึกษาร่างกฏหมายนี้ด้วยความเข้าใจเลย วันนี้คุณยังไม่เห็นหน้าปกหนังสือของผมเลย คุณก็บอกให้เอากลับไปปรับปรุง ผมไม่คิดว่าคุณเหยียดหยามคณะกรรมาธิการ ผมไม่ถือสา แต่ผมกำลังจะตั้งข้อกล่าวหาว่าคุณกำลังเหยียดหยามผู้แทนของประชาชน” ศุภชัย กล่าว