ไม่พบผลการค้นหา
'ชัยธวัช' ชี้หากถึงที่สุด 'เพื่อไทย' ต้องตัดสินใจเลือก '8 พรรคร่วม' หรือ 'พรรคเสียงข้างน้อย' อุดมการณ์ใครใกล้เคียงกว่า มองรอ 10 เดือนยังนานเกิน เชื่อ 2 พรรคจับมือกันทำตามเสียงประชาชน

วันที่ 24 ก.ค. ที่พรรคก้าวไกล ชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล พร้อมเปิดเผยว่า ในช่วงเที่ยงวันนี้มีการประชุม ส.ส.พรรคก้าวไกลทางออนไลน์ถึงแนวทางการจัดตั้งรัฐบาล ขอให้รอดูการประชุม 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลในวันพรุ่งนี้

ในกรณีเสนอแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ชัยธวัช กล่าวว่า เราเคยยืนยันมาหลายครั้งเรื่อง มาตรา 112 เป็นแค่ข้ออ้าง สุดท้ายหลายพรรคการเมืองก็พูดออกมาชัดเจน เพราะถึงอย่างไรก็จะไม่ร่วมรัฐบาลกับพรรคก้าวไกล เพราะมีอุดมการณ์และวิธีทำงานการเมืองที่แตกต่างกัน ตอนนี้พรรคเพื่อไทยเป็นเจ้าภาพในการจัดตั้งรัฐบาล อยู่ที่การตัดสินใจของพรรคเพื่อไทย

เมื่อถามว่าห่วงหรือไม่ว่าท้ายที่สุดแล้วพรรคเพื่อไทยจะปล่อยมือพรรคก้าวไกล ชัยธวัช กล่าวว่า อย่าเพิ่งรีบสรุป พรรคเพื่อไทยยังไม่ได้พูดแบบนั้น ส่วนกรณีมีการมองว่าการที่พรรคเพื่อไทยเชิญ 5 พรรคการเมืองไปร่วมหารือและแถลงข่าว จะเป็นการยืมมือเพื่อสลัดพรรคก้าวไกลออกมา ชัยธวัช กล่าวว่า คงห้ามประชาชนมองแบบนั้นไม่ได้ แต่สำหรับพรรคก้าวไกลรอฟังพรรคเพื่อไทยนำเสนอในวันพรุ่งนี้

ขณะที่ความกังวลว่าจะเกิดผลกระทบ เนื่องจากเมื่อวานนี้มีกลุ่มมวลชนไปชุมนุมที่ทำการพรรคเพื่อไทย ชัยธวัช กล่าวว่า ตนคิดว่าสิ่งที่ต้องกังวลตอนนี้คือประชาชนที่ได้เลือกตั้งไปแล้ว ไม่อยากให้พรรคการเมืองที่ชนะการเลือกตั้ง ทั้งอันดับหนึ่งและอันดับสองทำให้ประชาชนผิดหวัง

ส่วนกรณีที่ กัณวีร์ สืบแสง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ เลขาธิการพรรคเป็นธรรม เตรียมเสนอให้พรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลร่วมลงนาม Advance MOU พรรคก้าวไกลมีจุดยืนอย่างไร ชัยธวัช กล่าวว่า ยังไม่ได้คุยกันเรื่องนี้

เมื่อถามว่า 3 แนวทางที่ 8 พรรคร่วมฯ พูดคุยกันครั้งล่าสุด ได้แก่ 1.) หาเสียง ส.ว. 2.) หาเสียง ส.ส. 3.) แนวทางอื่น มองว่าทางไหนน่าจะเป็นไปได้มากที่สุด ชัยธวัช ตอบว่า ยังไม่ได้พูดคุยกันเลย ในส่วนของพรรคก้าวไกลคิดว่าการหาเสียงจาก ส.ว.เพิ่ม ยังมีความเป็นไปได้ เมื่อเปลี่ยนแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีแล้ว ก็ยังไม่อยากให้ละทิ้งแนวทางนี้

เมื่อถามว่า 50 เสียงที่คิดว่าเป็นไปได้มาจากไหน ชัยธวัช กล่าวว่า คิดว่ามาจากการประเมิน ตนคิดว่า ส.ว.เอง ก็ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์ยืดเยื้อจนไม่มีทางออก

ส่วนความเป็นไปได้หาก 8 พรรคลงมติผลักพรรคก้าวไกลออกจากกลุ่ม เหลือเพียง 7 พรรค ชัยธวัช กล่าวว่า คงไม่มีมติแบบนั้น ปัจจัยสำคัญอยู่ที่พรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทย เพราะรวมกันแล้ว เสียงเกินกึ่งหนึ่ง คือ 292 เสียง

ส่วนที่ได้ให้สัมภาษณ์ว่าพรรคเพื่อไทยอาจจะต้องเลือกว่าระหว่างอุดมการณ์ของ 5 พรรคฝั่งตรงข้ามหรือใน 8 พรรคร่วมฯ ชัยธวัช ระบุว่า เรื่องนี้ตนพูดในความหมายที่ว่าหากบอกว่าไม่มีทางอื่น ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ ด้วยเหตุผลนี้ พรรคเพื่อไทยไปคุยแล้วถึงสถานการณ์ที่จำเป็นต้องเลือก ซึ่งตนคิดว่ายังไปไม่ถึง 

"แต่ถ้าต้องเลือก ในเมื่อพรรคจำนวนหนึ่งบอกว่าอุดมการณ์ วิธีการ และแนวทางในการทำงานการเมืองไม่ตรงกับพรรคก้าวไกล พรรคเพื่อไทยก็จำเป็นต้องเลือก ถ้าเดินถึงสถานการณ์นั้นจริง ว่าพรรคเพื่อไทยมีอุดมการณ์และแนวทางการเมืองใกล้เคียงกับใครมากกว่า"

ส่วนหากมีพรรคภูมิใจไทยเข้ามาเพิ่มเสียง พรรคก้าวไกลจะยอมรับได้หรือไม่ เนื่องจากไม่ใช่พรรคลุง ชัยธวัช กล่าวว่า ยังไม่ได้คุยกัน ซึ่งวันนี้จะมีการหารือ ส.ส.ในทางออนไลน์ ส่วนคณะเจรจาชุดเดิมของพรรคก้าวไกล ประกอบด้วยตน พิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ และ ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรค จะเป็นผู้ไปเจรจากับ 8 พรรคร่วม พร้อมย้ำว่า อย่าเพิ่งคิดไปไกลถึงขั้นฉีก MOU

ส่วนที่มีการประเมินว่าอาจมีการเลื่อนการโหวตนายกรัฐมนตรีไปจนถึง 10 เดือน ชัยธวัช มองว่า 10 เดือนอาจนานเกินไป ตอนนี้เรายังเชื่อว่าถ้าพรรคอันดับหนึ่ง อันดับสอง รวมถึงอีก 6 พรรค จับมือกันแน่น การจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยเป็นไปได้ยากกว่าของฝั่ง 8 พรรคร่วมฯ 

เมื่อถามว่าพรรคเพื่อไทยยอมทิ้งแฟนเก่าไปเลือกแฟนใหม่ เพื่อให้ได้เป็นรัฐบาล ชัยธวัช กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นสิทธิของพรรคเพื่อไทยที่จะตัดสินใจ