ไม่พบผลการค้นหา
'8 พรรคร่วม' มอบสิทธิ 'เพื่อไทย' รวมคะแนนเสียง ส.ว.-ส.ส. ช่วยโหวตนายกฯ เป็นตัวแทนเจรจาหาทางปลดล็อกแก้ไขมาตรา 112 มาเสนอ 'ก้าวไกล' แง้มหากรวมเสียงไม่สำเร็จ อาจมีทางเลือกที่ 3 ที่ไม่มีบางพรรคอยู่ร่วมสมการ

วันที่ 21 ก.ค. ที่พรรคเพื่อไทย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นำ 8 พรรคร่วมรัฐบาล ประกอบด้วย ภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย, สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย, ชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล, พิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกลพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ, พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส พรรคเสรีรวมไทย, ปิติพงศ์ เต็มเจริญ หัวหน้าพรรคเป็นธรรม, ยกัณวีร์ สืบแสง เลขาธิการพรรคเป็นธรรม, สุพันธุ์ มงคลสุธี รองหัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย, น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ แกนนำพรรคไทยสร้างไทย, วสวรรธน์ พวงพรศรี หัวหน้าพรรคเพื่อไทรวมพลัง และตัวแทนจากพรรคพลังสังคมใหม่ แถลงผลการหารือถึงทิศทางการจัดตั้งรัฐบาล

โดย นพ.ชลน่าน กล่าวว่า หลังจากที่พรรคก้าวไกล ในฐานะแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ได้แถลงการณ์ และส่งมอบภารกิจให้พรรคอันดับที่ 2 คือพรรคเพื่อไทย เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ได้ปรึกษาหารือถึงทิศทางการจัดตั้งรัฐบาล เพื่อให้ได้รัฐบาลของฝ่ายเสรีประชาธิปไตย และในที่ประชุมมีมติ ดังนี้ 

ในการประชุมรัฐสภา วันที่ 27 ก.ค.ที่จะถึงนี้ ประธานรัฐสภาได้บรรจุระเบียบวาระในการพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 ที่ประชุมมีมติให้พรรคเพื่อไทย ส่งผู้ซึ่งสมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีที่อยู่ในบัญชีรายชื่อของพรรคเพื่อไทยเป็นผู้ได้รับการเสนอชื่อ โดยพรรคก้าวไกลเป็นผูัเสนอชื่อให้ที่ประชุมร่วมรัฐสภา เพื่อให้ได้มาซึ่งรัฐบาลที่มีความมุ่งมั่นร่วมกัน ให้เป็นไปตามความคาดหวังของพี่น้องประชาชน 27 ล้านเสียงที่เลือกเรามา 

ชลน่าน ชัยธวัช 714.jpegชลน่าน ชัยธวัช เพื่อไทย ก้าวไกล 8พรรค 8717.jpegชลน่าน ชัยธวัช 0.jpeg

ส่วนวิธีการที่จะได้มาซึ่งเสียงสนับสนุน ที่ประชุมได้เสนอแนวทาง ทั้งหมด 3 แนวทาง คือ

1.) พวกเรา 8 พรรคร่วม ซึ่งประกอบด้วย 312 เสียง เราจะดำเนินการแสวงหาเสียงสนับสนุนจากสมาชิกวุฒิสภาให้ได้ครบจำนวนที่ต้องเติมให้ถึง 375 เสียง หรือคืออีก 63 เสียง โดยอาจจะมีเงื่อนไขที่ ส.ว. ได้ตั้งไว้ ในกรณีที่เกี่ยวข้องกับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ซึ่งเป็นสิ่งที่พรรคเพื่อไทยจะต้องไปพูดคุย ในกรณีที่ ส.ว. ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการลดเงื่อนไขในมาตรา 112 ทางพรรคเพื่อไทยจะรับฟัง แล้วนำมาพูดคุยกับพรรคก้าวไกล และในที่ประชุมพรรคร่วมต่อไป

2.) กรณีที่ไม่สามารถหาเสียงสนับสนุนจาก ส.ว. ได้เพียงพอ จะให้สิทธิ์พรรคเพื่อไทย ดำเนินการพูดคุยกับพรรคการเมืองอื่น ตามที่พรรคเพื่อไทยเห็นควร เพื่อให้ได้มาซึ่งเสียงสนับสนุนจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในฝ่ายของสภาผู้แทนราษฎร โดยพรรคการเมืองที่จะไปพูดคุยนั้น ที่ประชุมให้เป็นเสรีภาพของพรรคเพื่อไทยในการพิจารณาดำเนินการ

3.) แนวทางอื่นๆ นอกเหนือจากนี้ ที่ประชุมได้ให้สิทธิ์พรรคเพื่อไทยในการพิจารณาดำเนินการ 

ส่วนข้อเสนอให้พรรคก้าวไกลพิจารณาลดเพดาน มาตรา 112 นพ.ชลน่าน ตอบว่า ข้อเสนอของที่ประชุมร่วมให้แนวทางว่าพรรคก้าวไกลอยากทราบรายละเอียดถึงการลดเงื่อนไขว่าคืออะไร จึงได้มอบหมายพรรคเพื่อไทยไปหารือกับสมาชิกวุฒิสภาแต่ละท่าน เพื่อให้พรรคก้าวไกลนำกลับไปพิจารณา

ด้าน ชัยธวัช เผยว่า ในฐานะที่พรรคเพื่อไทยเป็นเจ้าภาพ ต้องให้เวลาพรรคเพื่อไทยไปพูดคุยว่ารูปแบบของการปลดล็อคความไม่สบายใจของทุกฝ่าย รวมถึงแนวทางในการจัดตั้งรัฐบาลหลังปลดล็อคแล้วจะเป็นอย่างไร เพื่อให้พรรคก้าวไกลนำไปพิจารณา

เลขาธิการพรรคก้าวไกลยังยืนยันว่า มาตรา 112 เป็นเพียงข้ออ้าง เป้าหมายสูงสุด คือเราอยากเห็นการเปลี่ยนขั้วรัฐบาล ตามที่ประชาชนลงคะแนนเสียงมา ตอนนี้โดยมารยาท ต้องมอบหมายบทบาทหลักให้ทางพรรคเพื่อไทย ในการบริหารจัดการเรื่องเหล่านี้ เรื่องการลดเพดานมาตรา 112 เป็นภารกิจของพรรคเพื่อไทยในการดำเนินการ โดยมารยามพรรคก้าวไกลได้ส่งไม้ต่อไปแล้ว ต้องรอรายละเอียดจากพรรคเพื่อไทยอีกที

เมื่อถามถึงท่าทีของพรรคภูมิใจไทย พรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคพลังประชารัฐ และพรรคชาติไทยพัฒนา ที่ประกาศว่าจะไม่ร่วมสนับสนุนพรรคการเมืองที่ยุ่งเกี่ยวกับมาตรา 112 นพ.ชลน่าน ระบุว่า เรื่องนี้อยู่ในแนวทางอื่นๆ นอกเหนือจากที่ประชุมของ 8 พรรคร่วม ซึ่งมอบหมายให้พรรคเพื่อไทยไปพิจารณาว่าจะทำอย่างไร

นพ.ชลน่าน ยังยอมรับว่า ให้ความสำคัญหลักอยู่ที่เสียงของ ส.ว. มากกว่า ส.ส. และยังดำเนินตามทางเลือกที่ 1 คือมีเพียง 8 พรรคร่วมรัฐบาล โดยไม่มีพรรคการเมืองอื่นๆ มาเพิ่มเติม พร้อมหาคะแนนเสียงจาก ส.ว.ควบคู่กันไป และหากมีพรรคการเมืองใดให้ความเห็นชอบแคนดิเดตของ8 พรรคร่วม โดยไม่ขอร่วมรัฐบาล จะถือเป็นมิติใหม่ของพรรคการเมือง ทั้งนี้ ยังอยู่ที่การพูดคุย

ขณะที่ 26 ก.ค. นี้ จะทราบชื่อแคนดิเดตนายกฯ จากพรรคเพื่อไทยที่จะเสนอเพียงชื่อเดียว แต่ต้องมีกระบวนการสร้างความมั่นใจก่อนการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ว่าแคนดิเดตคนดังกล่าวต้องได้เสียงสนับสนุนเกิน 375 ขึ้นไป

นพ.ชลน่าน ยังกล่าวถึง ทางเลือกอื่นๆ ซึ่งอาจไม่มีพรรคใดพรรคหนึ่งอยู่ในสมการนี้ ซึ่งพรรคเพื่อไทยได้รับสิทธิจากที่ประชุมร่วมให้ไปดำเนินการและนำกลับมาปรึกษาหารือ

และเมื่อถามว่าปัจจัยที่จะทำให้ไปสู่ทางเลือกที่ 3 คืออะไร นพ.ชลน่าน ตอบว่า ก็ต่อเมื่อทางเลือกที่ 1 และที่ 2 ไม่สำเร็จ กรอบเวลาช้าสุดคือภายในวันที่ 25 ก.ค. นี้

ส่วนเงื่อนไข 'มีเราไม่มีลุง' ของบางพรรคการเมืองนั้น นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เราพยายามทำแนวทางที่ 1-2 ให้สำเร็จให้ได้ก่อน เรื่องอื่นเรายังไม่พูดถึง

สำหรับกรณีอาจมีการยื่นผู้ตรวจการแผ่นดิน เรื่องที่ประชุมรัฐสภาวินิจฉัยข้อบังคับที่ 41 ซึ่งอาจทำให้มีการเสนอชื่อ พิธา รอบ 2 ได้นั้น นพ.ชลน่าน กล่าวว่า คงต้องไปดูรายละเอียด เพราะอยู่คนละจังหวะเวลากัน

ชลน่าน ชัยธวัช เพื่อไทย ก้าวไกล 8715.jpegชัยธวัช ชลน่าน เพื่อไทย _8719.jpegชัยธวัช _8724.jpegชัยธวัช ชลน่าน 23.jpegชลน่าน _8728.jpegชลน่าน  ก้าวไกล25.jpegชลน่าน ชัยธวัช 8พรรค _8732.jpeg