ไม่พบผลการค้นหา
'ชูวิทย์' ยัน 'ทักษิณ' ดีลฮ่องกงล่ม ไม่กลับไทย 10 ส.ค. เชื่อรอไฟเขียวก่อน พร้อมท้า 'อิ๊งค์' รอดูใครกันแน่ที่เพ้อเจ้อ

วันที่ 29 ก.ค. 2566 ชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์ อดีตนักการเมือง ออกมาให้สัมภาษณ์ ถึงกรณีที่เมื่อวานนี้ได้โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊กว่า ”เกมพลิก ทักษิณถอย ยกเลิกกลับไทย สถานการณ์เปลี่ยน” โดยบอกว่า ตัวเองมีข้อมูลว่าวันที่10 ส.ค.นี้ ทักษิณจะยังไม่กลับมาประเทศไทย เพราะเกมการเมืองยังคงพลิกไปมาตลอด และคิดว่าไม่น่ากลับมาทั้งที่ยังโหวตเลือกนายกไม่สำเร็จ โดยส่วนตัวเชื่อว่า วันที่ 4 ส.ค.นี้ ในการโหวตเลือกนายกครั้งที่สองก็จะยังไม่ได้นายกรัฐมนตรีคนที่30แน่นอน ซึ่งการเดินทางกลับไทยของ ทักษิณ เชื่อว่าจะถูกเลื่อนออกไปไม่มีกำหนดจนกว่าจะได้รับสัญญาณไฟเขียวที่มีการดีลกันอยู่ในกรุงเทพฯ โดยไม่ขอบอกว่าเป็นอำนาจแบบไหน 

ชูวิทย์ บอกว่า จากการแถลงข่าวที่ผ่านมา ตัวเองบอกเพียงว่า ทักษิณ มีโอกาสกลับประเทศ 60-70% ไม่เคยยืนยันกว่ากลับ 100% เพราะเกมการเมืองเปลี่ยนไปตลอดเวลา ยืนยันว่าการแถลงข่าวทุกครั้งไม่ใช่ข่าวลวง แต่พูดตามข้อเท็จจริง ณ.เวลานั้นๆ และมีการเช็คแหล่งข่าวตลอด ย้ำว่าถ้าจากการประเมินวันนี้ ทักษิณจะยังไม่กลับประเทศไทยแน่ แต่ถ้าหลังจากนี้มีการดีลหรือได้ไฟเขียวก็ต้องประเมินสถานการณ์อีกครั้ง 

ชูวิทย์ มองว่าการกลับเข้าประเทศของ ทักษิณ อดีตนายกรัฐมนตรี จะต้องเป็นช่องการพิเศษ ไม่ใช่กรมราชทัณฑ์นำหมายศาลไปรับตัวถึงสนามบินและพาเข้าคุก รอขอยื่นอภัยโทษส่วนบุคคล อีกทั้งจากประสบการณ์การขอยื่นอภัยโทษส่วนบุคคลจะต้อง เป็นนักโทษเด็ดขาดคดีเป็นที่สิ้นสุด และมีการรับสารภาพแล้ว และคดี ลัก จี้ ชิง ปล้น ทุจริต ไม่เคยมีให้อภัยโทษลักษณะนี้มาก่อนด้วย

ส่วนกรณีที่ แพรทองธาร ชินวัตร หรือ อิ๊งค์ แคนดิเดตนายกฯพรรคเพื่อไทย คอมเมนท์ว่า ตัวเอง เพ้อเจ้อ ยืนยันว่าไม่ได้โกรธไม่ได้โกรธ เพราะเข้าใจในบทบาทของลูกสาวว่าอยากให้พ่อกลับประเทศ อีกทั้งนายทักษิณก็ต้องการกลับประเทศแล้วติดปัญหา ซึ่งอิ๊งค์อาจจะไม่รู้เงื่อนไขทั้งหมด ชูวิทย์บอกว่าตัวเองไม่กลัวอิ๊งค์จะโกรธเพราะพูดในฐานะประชาชนคนหนึ่ง ที่อ่านเกมการเมืองออก และอยากให้รอดูว่า หลังจากนี้ใครกันแน่ที่เพ้อเจ้อ

ส่วนกรณีที่ จตุพร พรหมพันธุ์ ให้สัมภาษณ์กับสื่อเรื่องการเปลี่ยนแปลงการกลับประเทศของนายทักษิณ ชูวิทย์ บอกว่า จตุพรก็รู้เรื่องมาจากตัวเองเหมือนกัน แต่จะเชื่อมโยงกับการดีลลับฮ่องกงหรือไม่ ตัวเองไม่รู้ ส่วนกรณีที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ยื่นลาออก ที่หลายคนมองว่าอาจเกี่ยวกับดีลลับฮ่องกง มองว่า การลาออกเป็นเพราะครบวาระ แล้วสุดท้ายก็จะได้รับการสนับสนุนโหวตกลับมาใหม่จากสมาชิกพรรค แต่มองว่า ตามการเมือง จะให้พล.อ.ประวิตร ประชุมสภาเหมือน ส.ส. สัปดาห์ละสองครั้งเป็นเรื่องยาก มองว่า ควรเป็นผู้อยู่เบื้องหลังให้การสนับสนุนน้องชายดีกว่า

ส่วนภาพธนาธรไปหา ทักษิณ ตัวเองรู้มาว่า ธนาธรเสนอจะเป็นฝ่ายค้าน โหวตสนับสนุนพรรคเพื่อไทย แลกกลับการที่ต้องไม่มีพรรคของสองลุง ซึ่งเชื่อว่า ทักษิณไม่เอาด้วย เพราะเสี่ยงจะไม่ได้กลับบ้าน