ไม่พบผลการค้นหา
28 ชั่วโมงครึ่ง แห่งการอภิปรายซักฟอกนโยบายรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ 2/1 เป็นบททดสอบสำคัญของฝ่ายค้านที่เข้มแข็งที่สุดในรอบหลายทศวรรษ 244 เสียง รวม 7 พรรค

นำโดย เพื่อไทย อนาคตใหม่ เสรีรวมไทย เพื่อชาติ ประชาชาติ พลังปวงชนไทย เศรษฐกิจใหม่ ว่าจะทำให้ฝ่ายรัฐบาลสั่นคลอนตั้งแต่ยกที่ 1 หรือไม่ 

ถึงขั้น “วีระกร คำประกอบ” ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ หัวขบวนสกัดฝ่ายค้าน และ”หัวหน้าชุดพิทักษ์ 3 ป. “ป.ประยุทธ์ - ป.ประวิตร - ป.ป็อก อนุพงษ์” ถึงกับให้เครดิตว่ากลัวที่สุดคือฝีปากพรรคเพื่อไทย ในฐานะรู้หมัด รู้มือกันดี มีความเก๋าเกมสภา หากเทียบดีกรีคนรุ่นใหม่ แห่งอนาคตใหม่ ยังถือว่าพรรคส้มหวานน่ากลัวน้อยกว่า เพราเน้นอภิปรายในลีลามาดวิชาการ มากกว่ามาดนักเลงการเมือง

ความเคลื่อนไหว “เพื่อไทย” เริ่มซักซ้อมประเด็นอภิปรายนโยบาย ก่อนหน้าขึ้นเวทีจริงกว่า 2 สัปดาห์ แบ่งประเด็นอภิปราย 15 ประเด็น ก่อนโฟกัสให้เหลือ 6 ด้านหลัก 1.ด้านคุณสมบัตินายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรี 2.การเอื้อกลุ่มทุนใหญ่ ความเหลื่อมล้ำ 3.ด้านเศรษฐกิจ 4.การแก้ไขรัฐธรรมนูญ 5.การกระจายอำนาจ 6.การปฏิรูปประเทศ

บุคคลที่ตกเป็นเป้าหมายถูกซักฟอกเรียงตัวบุคคล 1.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม 2.รัฐมนตรีในรัฐบาล 10 คน แบ่งเป็น หน้าเก่าที่เป็นรัฐมนตรีตั้งแต่ยุค คสช. และรัฐมนตรีหน้าใหม่ที่เพิ่งเข้าร่วมรัฐบาล ว่าจะนำนโยบายไปสู่การปฏิบัติได้หรือไม่

ขณะที่ประเด็นเนื้อหาสาระของนโยบาย ไล่ตั้งแต่ตัวคำแถลงนโยบายที่ฝ่ายค้านหยิบประเด็นว่า “ขัดรัฐธรรมนูญ” เพราะไม่มีการชี้แจงรายละเอียดที่มาของเงิน การใช้เงินแต่ละโครงการ และยังขัดกับนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐ คำแถลงนโยบายเป็นลักษณะ “ตัดแปะ” ด้วยการนำนโยบายที่พรรคการเมืองแต่ละพรรคมาขยำรวมเป็นเอกสารนโยบาย

ฝ่ายค้าน ak-เสวนา 7 พรรคการเมือง ทางออกประเทศ 21072019-9.jpg
  • ฝ่ายค้านจัด 70 ส.ส. รุกถล่มนโยบายรัฐบาล

นาทีแรกฝ่ายค้านวางคนไว้อภิปรายไว้ 70 คน “เพื่อไทย” เข้าชื่ออภิปรายแล้ว 55 คน อนาคตใหม่ 20 คน และมีมืออภิปรายจาก พรรคร่วมฝ่ายค้านอย่าง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่

แต่ไปๆ มาๆ เพื่อไทยคำนวณเวลาแล้ว สัดส่วนที่อัดแน่น 55 คน ของเพื่อไทย จะทำให้เวลาการอภิปรายของแต่ละคนลดน้อยลงเหลือเพียงคนละ 4-5 นาที จึงตัดออก 10 คน เหลือ 45 คน เพื่อเพิ่มเวลาให้กับมืออภิปราย ตัวหลักๆ

เป้าใหญ่การอภิปราย ตกไปอยู่ที่คุณสมบัติ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม พุ่งประเด็น ที่มีสถานะเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือไม่ เมื่อเป็นแคนดิเดตนายกฯ พรรคพลังประชารัฐ ในการเลือกตั้งปี 2562 แม้ว่าเรื่องดังกล่าวจะอยู่ที่ศาลรัฐธรรมนูญ แต่ไม่หวั่นว่าจะเป็นการ “ชี้นำศาล” ตามที่ “วิษณุ เครืองาม” รองนนายกรัฐมนตรี เนติบริกรออกมาเตือน

“สุทิน คลังแสง” ส.ส.มหาสารคาม เพื่อไทย กล่าวว่า การอภิปรายคุณสมบัติ พล.อ.ประยุทธ์ สามารถทำได้ เพราะไม่ได้ไปชี้นำศาลว่าศาลจะต้องตัดสินอย่างนั้น อย่างนี้ แต่จะอภิปรายเนื้อหา จึงไม่มีปัญหา

นอกจากนี้ ยังเตรียมหยิบบางประเด็นของ “พล.อ.ประยุทธ์” ที่พูดบนเวทีปาฐกถาในการประชุมผู้นำธุรกิจอาเซียน ครั้งที่ 5 หัวข้อ “The Future of Thailand and ASEAN” ซึ่งถือเป็นเวทีแรกในการเปิดตัวและแสดงวิสัยทัศน์บนเวทีนักลงทุนต่างประเทศ หลังได้รับการโปรดเกล้าฯเป็นนายกรัฐมนตรีสมัยที่ 2 โยงกับความชอบธรรมของผู้นำประเทศที่ได้เป็นนายกฯ เพราะเสียงโหวตของ ส.ว.250 คน ไม่ใช่เสียงของประชาชนที่ลงคะแนนผ่านการเลือกตั้ง

ครม ประยุทธ์ อนุพงษ์


ประวิตร วงษ์สุวรรณ

คนต่อมา บิ๊กป้อม - พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ผู้ได้รับสมญาจากสมัยรัฐบาล คสช. “แหวนแม่ นาฬิกาเพื่อน” ก็จะถูกฝ่ายค้านกระหน่ำซัมเมอร์เซลในประเด็นนี้ด้วยเช่นกัน ยังไม่นับข้อกล่าวหาที่ว่า เป็นบุคคลที่ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคครอบงำพรรคพลังประชารัฐ

ส่วนบิ๊กป๊อก - พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ฝ่ายค้านออกมาเฉลยข้อสอบแล้วว่าจะซักฟอกปมฉาวโรงขยะ ที่ถูกร้อง ป.ป.ช.มีคนใกล้ชิดพัวพันโรงฟ้ากำจัดขยะ 324 แห่ง รวมมูลค่า 3 แสนล้าน ปี 2561

โดยทีมอภิปรายคุณสมบัติ 3 ป. คนที่นำอภิปรายคือ “พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส” มีข่าวว่าได้ขอวิปฝ่ายค้านให้เพิ่มเวลาที่จะซักฟอกคุณสมบัติของ พล.อ.ประยุทธ์ นานเป็นพิเศษ ต่อด้วย จิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ส.ส.เชียงราย นายชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส.นครพนม

ฟากพรรคพลังประชารัฐจำต้องมีองค์รักษ์พิทักษ์ 3 ป.โดยเฉพาะโดยมี “วีระกร คำประกอบ” ส.ส.นครสวรรค์ทำหน้าที่บัญชาการอารักขา

ขณะที่ด้านนโยบาย แบ่งเป็นด้านเศรษฐกิจ คนที่อาจจะเปิดหัวคือ นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ประธานที่ปรึกษาพรรคเศรษฐกิจใหม่ นายไชยา พรหมมา ส.ส.หนองบัวลำพู นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ น.ส.จิราภร สิทธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด

ด้านปัญหาการเอื้อกลุ่มทุนใหญ่ ความเหลื่อมล้ำ ผู้อภิปรายมี นายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ ส.ส.อุตรดิตถ์ พรรคเพื่อไทย

ขณะที่นโยบายปฏิรูปประเทศนั้น มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติอภิปราย ต่อจากนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่จะเป็นผู้เปิดการอภิปราย

สมพงษ์ปิยบุตร

มีรายงานว่า “สมพงษ์” ในฐานะว่าที่ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร อภิปรายภาพรวมถึงความล้มเหลวในการเขียนนโยบายของรัฐบาล ที่ขัดรัฐธรรมนูญ เขียนนโยบายที่ไม่สมบูรณ์แบบ “ตัดแปะ” และไม่สามารถนำไปใช้ได้จริง 

ด้าน “ปิยบุตร แสงกนกกุล” เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ บอกว่า พรรคได้รับเวลาในการอภิปรายประมาณ 260 นาที โดยพรรคเตรียมผู้อภิปรายไว้ 20 คน โดยตนเองจะเป็นคนเริ่มอภิปราย ในเรื่องประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน การกระจายอำนาจ ใช้เวลาประมาณ 30-40 นาที

จากนั้นจึงเป็นคิวของ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ อภิปรายเรื่องนโยบายเศรษฐกิจทั้งหมด, นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ เรื่องโครงสร้างพื้นฐานทั้งระบบ

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ เรื่องนโยบายการเกษตร ปัญหาที่ดินทำกิน และปัญหาหนี้สินเกษตรกร, พล.ท.พงศธร รอดชมภู ส.ส.บัญชีรายชื่อ เรื่องความมั่นคง และปัญหาใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และนางวรรณวิภา ไม้สน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พูดเรื่องประเด็นแรงงาน บัตรสวัดิการแห่งรัฐ โครงการมารดาประชารัฐ นอกจากนี้ยังมีเรื่องสิ่งแวดล้อม พลังงาน เศรษฐกิจดิจิทัล ที่เราได้เตรียมคนอภิปรายไว้อย่างสร้างสรรค์ ครบทุกมิติ

รวมถึงการกำหนดเรื่องแก้รัฐธรรมนูญเพียง 2 บรรทัด และไม่ได้ผูกมัดตัวเองเท่าไร บอกเพียงให้ศึกษา ทำความเข้าใจในเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญเท่านั้น โดยจะอภิปรายถึงความจำเป็นในการแก้รัฐธรรมนูญ และพยายามผลักดันให้ประเด็นดังกล่าวเข้มข้นมากกว่านี้

ศึกยกแรกเพื่อไทย แนวรบฝ่ายค้าน จัดหนัก - แต่ยังเล่นไม่ถึงรัฐบาลน็อกคาสภา แต่เน้นเชิงสร้างสรรค์ โชว์โซเชียล

และยังเปิดโอกาสให้รัฐบาลได้ทำงาน ก่อนจะเข้าสู่ยกสองอภิปรายไม่ไว้วางใจเดือน ก.ย. นี้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง