ไม่พบผลการค้นหา
ภูฏานประกาศล็อกดาวน์ทั่วประเทศเป็นครั้งแรก หลังชาวภูฏานคนหนึ่งที่เดินทางกลับจากต่างประเทศถูกตรวจพบว่าติดโควิด-19 หลังถูกปล่อยจากการกักตัว และได้สัมผัสใกล้ชิดกับอีกหลายคนในกรุงทิมพู

คำสั่งล็อกดาวน์ทั่วประเทศมีขึ้นหลังชาวภูฏานวัย 27 ปีคนหนึ่งที่เดินทางกลับจากคูเวตและถูกปล่อยออกจากการกักตัวหลังตรวจไม่พบเชื้อ แต่เมื่อวันที่ 10 ส.ค. 2563 กลับถูกตรวจพบว่าติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เมื่อเข้าตรวจที่คลินิกแห่งหนึ่ง สำนักข่าวซินหัวของจีนรายงานว่า ผู้ป่วยรายนี้ได้สัมผัสใกล้ชิดกับอีกหลายคนทั้งในเมืองพาโร กรุงทิมพูและอีกหลายแห่ง โดยรายงานระบุว่านับตั้งแต่เย็นวันที่ 10 ส.ค. ที่ผ่านมาจนถึงเช้าของวันที่ 11 ส.ค. หน่วยงานสาธารณสุขได้ติดตามพบผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อคนดังกล่าวได้แล้ว 71 คน 

แถลงการณ์ของรัฐบาลภูฎานระบุว่า มาตรการล็อกดาวน์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นนี้มีเป้าหมายเพื่อระบุตัวและแยกกักผู้ติดเชื้อ โดยมีการสั่งจำกัดการเดินทางเคลื่อนย้ายของคนและยานพาหนะในภูฏานซึ่งทั้งประเทศมีประชากรราวๆ 750,000 คน รัฐบาลขอให้ประชาชนทุกคนอยู่บ้านและป้องกันตัวเองและครอบครัวจากโรค โรงเรียน สถาบันต่างๆ ไปจนถึงสำนักงานและหน่วยงานพาณิชย์ทั้งหมดจะยังคงปิดทำการและเลื่อนการสอบออกไป ส่วนนักศึกษาและผู้ที่ฝึกงานก็ได้รับคำสั่งให้อยู่ในพื้นที่มหาวิทยาลัยและปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างไรก็ตาม รัฐบาลภูฏานเตือนประชาชนอย่าตื่นตระหนก โดยจะมีการส่งอาหารให้ที่บริเวณหน้าประตูบ้าน และคาดว่าจะบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์เป็นเวลา 5 วันถึง 3 สัปดาห์ 

การพบผู้ติดเชื้อวัย 27 ปีคนนี้ ส่งผลให้จำนวนผู้ติดเชื้อสะสมในภูฏานอยู่ที่ 113 ราย ยังคงเป็นจำนวนน้อยที่สุดในเอเชียใต้ และยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต อย่างไรก็ตาม การระบาดของโควิด-19 ก็ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวของภูฎานซึ่งในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ทำเงินเฉลี่ยถึงปีละ 80 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แต่ทางการภูฎานได้ประกาศห้ามการท่องเที่ยวไปเมื่อเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา หลังมีนักท่องเที่ยวชาวอเมริกันคนหนึ่งติดเชื้อ รวมถึงยังสั่งให้ทุกคนที่เดินทางกลับจากต่างประเทศต้องกักตัวเป็นเวลา 3 สัปดาห์ 

อ้างอิง CNA / Times of India