ไม่พบผลการค้นหา
'ชญาภา' หนุนงบ 67 เพิ่มให้ 'สธ.' เป็น 1.6 แสนล้าน ขับเคลื่อนนโยบาย '30 บาท รักษาทุกที่' ลดความเหลื่อมล้ำ ต่อยอดความสำเร็จสมัย 'ทักษิณ'

วันที่ 4 ม.ค. ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรวาระพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 ต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 ชญาภา สินธุไพร สส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย อภิปรายสนับสนุนร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ โดยกล่าวถึงงบประมาณของกระทรวงสาธารณสุข ที่ได้รับจัดสรรถึง 165,726 ล้านบาท เพิ่มจากปีงบประมาณ 2566 13,462 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 8.84 % 

ชญาภา ระบุว่า งบประมาณที่เพิ่มขึ้นเป็นการจัดสรรเพื่อรองรับภารกิจของกระทรวงสาธารณสุข โดยเฉพาะนโยบายรัฐบาลที่ต้องการยกระดับ 30 บาท รักษาทุกโรค ที่เกิดขึ้นในรัฐบาลของ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นนโยบายที่ประสบความสำเร็จ พลิกโฉมการบริหารงบประมาณสาธารณสุขของประเทศไทย ทำให้ประชาชนมีหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ส่งผลให้คนไทยเข้าถึงการรักษาพยาบาลที่ได้มาตรฐานโดยไม่ต้องล้มละลายจากการเจ็บป่วย 

"การเจ็บป่วยต้องไม่มีใครเป็นผู้ป่วยอนาถา จากความสำเร็จในอดีตได้สร้างคุณูปการมาถึงปัจจุบัน เป็นนโยบายที่ได้รับการตอบรับจากประชาชนในประเทศ และได้รับการยอมรับจากต่างประเทศ เช่น องค์การอนามัยโลก ที่ยกย่องให้ไทยเป็นต้นแบบในการจัดระบบประกันสุขภาพ โดยใช้งบประมาณไม่มาก"

การยกระดับนโยบาย 30 บาท ถือเป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญของรัฐบาลนี้ โดยเน้นที่ 4 เรื่องหลัก ได้แก่

1.ลดความเหลื่อมล้ำ เน้นให้มีหน่วยบริการมากขึ้นเพื่อลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางของพี่น้องประชาชน

2.ลดความแออัดในโรงพยาบาล 

3.เข้าถึงบริการได้สะดวกมากยิ่งขึ้น 

4.เพิ่มคุณภาพการบริการให้ครอบคลุมมากขึ้น 

ชญาภา ยังระบุว่า ในวันที่ 7 ม.ค. 2567 เศรษฐา ทสีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย รองประธานคณะกรรมการพัฒนาระบบสุขภาพแห่งชาติ จะเริ่มขับเคลื่อนนโยบายบัตรประชาชนใบเดียว รักษาทุกที่ สาเกตนคร หน้าหอโหวต 101 ซึ่งถือเป็นหนึ่งใน 4 จังหวัดนำร่องของประเทศไทยที่มีความพร้อม ใช้ระบบเชื่อมต่อข้อมูลเป็นระบบเดียวกันทั้งจังหวัด มีหน่วยบริการหลากหลาย ทั้งโรงพยาบาลรัฐ โรงพยาบาลเอกชน โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) และเครือข่ายสาธารณสุข โดยจะคิกออฟพร้อมกับ จ.แพร่ เพชรบุรี และนราธิวาสด้วย

นโยบายนี้สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพของรัฐบาลที่มุ่งมั่นทำงานรวดเร็ว รุดหน้าและเล็งเห็นความสำคัญเรื่องสุขภาพของประชาชน จึงถือเป็นข่าวดี ในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ.ร้อยเอ็ด จึงขอแสดงความยินดีกับพี่น้องชาวร้อยเอ็ด และประชาชนคนไทย พร้อมให้กำลังใจรัฐบาล เศรษฐา นพ.ชลน่าน และบุคลากรสาธารณสุขที่สามารถดำเนินการตามนโยบายที่รัฐบาลแถลงไว้ต่อรัฐสภาได้อย่างรวดเร็วตรงเป้าหมาย