ไม่พบผลการค้นหา
วิบูลย์ คูสกุล อดีตเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงปักกิ่ง ปลื้มผู้นำมีเจตจำนงค์ทางการเมืองสร้างยุทธศาสตร์ชาติ เพื่อทิศทางที่ถูกต้องในการพัฒนาประเทศ บอกสิ่งที่ควรตระหนักคือ "ไม่ใช่ว่าเราอยากเป็นอะไร แต่ต้องคิดว่าเราควรจะเป็นอะไรมากกว่า"

นายวิบูลย์ คูสกุล อดีตเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงปักกิ่งและคณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ ด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขัน บรรยายแง่คิดมุมมองยุทธศาสตร์ชาติไทย-จีน ดูเขาดูเรา ในงานครบรอบ 71 ปี คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยระบุว่า ประเทศจีนที่เจริญได้ในปัจจุบัน เป็นเพราะมียุทธศาสตร์ชาติที่ถูกต้อง เริ่มจากวิสัยทัศน์ตั้งแต่ปี 2510 ที่มุ่งฟื้นฟูจีนสู่ความยิ่งใหญ่เหมือนในอดีต โดยแบ่งเป็น 2 เป้าหมาย คือ ปี 2564 จีนต้องเป็นสังคมนิยมที่อยู่ดีกินดีขั้นพื้นฐาน รายได้ต่อหัวเพิ่มจาก 5,000 เหรียญสหรัฐเป็น 10,000 เหรียญสหรัฐและเพิ่มชนชั้นกลางขึ้น กับกลางศตวรรษที่ 21 จีนจะเป็นประเทศมหาอำนาจ หรือ สังคมนิยมสมัยใหม่ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะของจีน 

ส่วนวิสัยทัศไทยคือ "มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน" ภายใน 20 ปีหรือปี 2580 จะเป็นประเทศพัฒนาแล้ว โดยยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง พร้อมยืนยันว่า ทุกประเทศให้ความสำคัญความมั่นคง ที่ไม่ใช่ด้านการทหารเท่านั้น

ส่วน "ความมั่งคั่ง" นั้นรวมถึงว่า หากประเทศเพื่อนบ้านมีความมั่นคงและมั่งคั่ง ก็จะเป็นประโยชน์กับไทยด้วย

สำหรับ "ความยั่งยืน" ต้องยึดปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ไม่ให้ไทยเผชิญวิกฤติเศรษฐกิจอย่างวิกฤติต้มยำกุ้งอีก ซึ่งเกิดจาก "การเห็นช้างขี้ขี้ตามช้าง"

นายวิบูลย์ กล่าวด้วยว่า โชคดีที่ไทยมีผู้นำที่มีเจตจำนงค์ทางการเมือง ที่หาทางทำยุทธศาสตร์ชาติให้สำเร็จและจำเป็นต้องบรรจุไว้ในรัฐธรรมนูญเพื่อให้ทุกๆ รัฐบาลดำเนินการตาม ให้ประเทศเดินไปในทิศทางที่ถูกต้อง

สิ่งที่ควรตระหนักคือ "ไม่ใช่ว่าเราอยากเป็นอะไร แต่ต้องคิดว่าเราควรจะเป็นอะไรมากกว่า" โดยใช้จุดแข็งของไทยคือ ด้านการเกษตร ที่จากนี้ก็เป็นเกษตรปลอดภัย, ความได้เปรียบทางภูมิศาสตร์ เป็นศูนย์กลาง EEC ใช้เป็นเครื่องยนต์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และการจะมีรถไฟความเร็วสูงที่ให้เอกชนแบกรับความเสี่ยง เชื่อมต่อ 3 สนามบิน คือสนามบินสุวรรณภูมิ, สนามบินดอนเมืองและสนามบินอู่ตะเภา เป็นสิ่งจำเป็นและดำเนินการในจังหวะเวลาที่ถูกต้องแล้วด้วย