ไม่พบผลการค้นหา
อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เตรียมเข้มงวดผู้คุมนักโทษในเรือนจำ หลังลงโทษให้ออกแล้ว 14 คนมีพฤติกรรม รู้เห็นเป็นใจให้ผู้ต้องขังชายลักลอบเข้าไปมีเพศสัมพันธ์กับผู้ต้องขังหญิงในแดนหญิง  เตรียมดำเนินคดีทางแพ่งและอาญา ย้ำกรมราชทัณฑ์ยุคนี้ ต้องไม่ใช่แดนสนธยา ทุกอย่างต้องโปร่งใสตรวจสอบได้

พันตำรวจเอก ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ให้สัมภาษณ์กับวอยซ์ทีวี ว่าเตรียมมาตรการป้องกันขั้นเด็ดขาดมาใช้กับ ผู้คุมนักโทษในเรือนจำ หลังผู้คุมนักโทษ 14 คนมีพฤติรรมมไม่เหมาะสม และสร้างความเสื่อมเสียชื่อเสียง ให้กับกรมราชทัณฑ์ โดยเฉพาะการ รู้เห็นเป็นใจให้ผู้ต้องขังชายลักลอบเข้าไปมีเพศสัมพันธ์กับผู้ต้องขังหญิงในแดนหญิง  และย้ำให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับสังคมภายนอก

ทั้งนี้ถือว่าเป็นการกระทำความผิดวินัยร้ายแรง ไม่เพียงเท่านั้นจากพยานหลักฐานที่มีอยู่ ค่อนข้างชัดเจนว่ามีการกระทำความผิดจริง  

สำหรับเจ้าหน้าที่ทั้ง 14 คน มีทั้งพฤติกรรมเรียกรับผลประโยชน์จากการจับกุมโทรศัพท์มือถือจากผู้ต้องขังแล้ว ส่งคืน โดยไม่รายงานผู้บังคับบัญชา ไม่นำเงินผลพลอยได้ฝากเข้าบัญชีธนาคาร 14 ครั้ง เป็นเงิน 601,202 บาท มีส่วนรู้เห็นและได้ประโยชน์จากการไม่ตรวจค้นเจ้าหน้าที่เป็นเหตุให้สามารถ ลักลอบนำโทรศัพท์มือถือเข้าเรือนจำ ดำเนินการเบิกจ่ายงบประมาณ เงินเดือน ค่าตอบแทนพนักงานราชการ โดยทุจริต จำนวน 4,995,037 บาท มีส่วนรู้เห็นและได้ประโยชน์จากการปล่อยให้ผู้ต้องขังลักลอบจำหน่ายสินค้าใน เรือนจำ โดยใช้เงินสด มีส่วนรู้เห็นและได้ประโยชน์จากการจำหน่ายพระเครื่องในเรือนจำ มีส่วนรู้เห็นและได้ประโยชน์จากการเก็บส่วยเปิดบ่อนการพนันในเรือนจำ รู้เห็นเป็นใจให้ผู้ต้องขังชายลักลอบเข้าไปมีเพศสัมพันธ์กับผู้ต้องขังหญิง ในแดนหญิง 

นอกจากกนี้ยังพบ มีภาพวงจรปิดบันทึกได้ เกี่ยวข้องลักลอบนำโทรศัพท์มือถือและยาเสพติดเข้าเรือนจำ นำสุราไปให้ผู้ต้องขังในเรือนจำแลกเงิน 2 พันบาท และเรียกรับผลประโยชน์จากญาติผู้ต้องขัง เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ต้องขังในเรือนจำด้วย 


 

รายงานโดย : ปริญญา แก้วตัน