นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชิปัตย์ กล่าวถึงการพิจารณาร่างพ.ร.บ.ประกอบรับธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ....ที่เพิ่มอำนาจให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช)สามารถดักฟังโทรศัพท์ได้ว่า ยังไม่ทราบว่ากรณีดังกล่าวจะนำมาใช้กับลักษณะใด ดักฟังช่วงไหน อย่างไร และจะใช้อย่างไร ซึ่งยังไม่มีความชัดเจน จึงขอให้มองถึงความจำเป็นเพราะกรณีดังกล่าวถือเป็นการละเมิดเสรีภาพสิทธิส่วนบุคคลขั้นพื้นฐาน
และจะต้องระบุเงื่อนไขที่ชัดเจนว่ากรณีไหนสามารถทำได้หรือไม่ได้ รวมทั้งจะต้องสามารถตรวจสอบและถ่วงดุลได้ และจะต้องมีการขอหมายศาลตามเงื่อนไขที่ชัดเจน
อย่างไรก็ตามที่ผ่านมา นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวถึง กรณี กมธ.วิสามัญ ร่าง พ.ร.ป.การป้องกันและปราบปรามการทุจริต สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เพิ่มบทบัญญัติ ให้อำนาจคณะกรรมการ ป.ป.ช. สามารถสืบค้นข้อมูลของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ข้าราชการ และประชาชน ผ่านช่องทางโทรศัพท์ โทรสาร โทรศัพท์เคลื่อนที่ และอุปกรณ์สื่อสารทั้งหมด ว่า กลุ้มใจ และเตรียมการคัดค้าน เพราะกังวลว่ารายละเอียดที่บัญญัติใหม่
หากไม่มีกลไกที่ดีพอ อาจเป็นประเด็นที่ขัดกับ รธน. ว่าด้วยสิทธิส่วนบุคคล หรือสิทธิของประชาชนได้ เข้าใจ คนทำงานก็อยากมีอำนาจ แต่อำนาจพอมีนานๆ มันเป็นดาบ 2 คม ซึ่งอันตราย อย่ามีมากนักเลย กมธ.ที่โหวตบางทีคงไม่เข้าใจ คิดว่า สนุกดี มีอำนาจ คิดอยู่กันชั่วฟ้าดินสลาย แต่สุดท้ายผลร้ายมันจะเกิดกับ สนช.เอง ส่วนทาง กรธ.ก็พยายามค้านกันอยู่