นายปิยะ ยอดมณี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แนวโน้มราคาน้ำมันในตลาดโลกขณะนี้อยู่ในช่วงขาขึ้น จึงส่งผลกระทบทำให้ต้นทุนของธุรกิจสายการบินสูงขึ้น และทำให้ราคาบัตรโดยสาร รวมถึงการทำโปรโมชั่นแข่งขันด้านราคา อาจต้องปรับราคาขึ้นสูง แต่การปรับเพิ่มนี้จะยังคงอยู่ในกรอบเพดานราคาตามที่สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย หรือ กพท. กำหนดไว้ และจะไม่ทำให้ผู้โดยสารได้รับผลกระทบหนัก

นายปิยะ ยังกล่าวต่อว่า แม้ราคาน้ำมันจะอยู่ในช่วงขาขึ้น แต่โปรโมชั่นจะยังมีอยู่ เพราะธุรกิจสายการบินมีการแข่งขันสูง โดยทางออกคือ สายการบินอาจจะพิจารณาทำโปรโมชั่นราคาแต่ไม่ถูกเหมือนเดิม หรือเปลี่ยนเป็นใช้วิธีลดที่นั่งโปรโมชั่นแต่ละเที่ยวบิน ซึ่งจะไม่ทำให้กระทบกับผู้โดยสาร ส่วนระยะเวลาในการเริ่มปรับค่าตั๋วนั้น จะต้องประเมินตามความต้องการของตลาด รวมทั้งดูการจัดโปรโมชั่นของคู่แข่งด้วย

ด้าน นายจุฬา สุขมานพ ผอ. สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) เปิดเผยว่า ตามปกติหากราคาน้ำมันปรับสูงขึ้น ทางสายการบินสามารถปรับเพิ่มต้นทุนในส่วนของค่าธรรมเนียมน้ำมัน ที่รวมอยู่ในราคาตั๋วโดยสาร โดยไม่ต้องขออนุญาต เนื่องจาก กพท. ให้หลักการว่าหากน้ำมันขึ้นก็สามารถปรับขึ้นได้ แต่โดยรวมราคาบัตรโดยสารต้องไม่เกินกรอบเพดานกำหนด 13 บาท/กม. 

ทั้งนี้เมื่อน้ำมันปรับลดราคาลง ก็ต้องลดราคาตั๋วลงด้วย อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันราคาน้ำมันเริ่มปรับเพิ่มสูงขึ้น เชื่อว่าแต่ละสายการบินอยู่ระหว่างพิจารณาแนวทางในการปรับตัวรับมือต้นทุนที่เพิ่มสูงนี้ หากรับไม่ไหวคงต้องปรับราคาบัตรโดยสารขึ้นบ้าง แต่มั่นใจว่าจะไม่กระทบผู้โดยสารมาก เพราะอุตสาหกรรมการบินมีการแข่งขันสูง ผู้ประกอบการต้องทำราคาแข่งขันเพื่อแย่งชิงตลาด