ไม่พบผลการค้นหา
ที่ประชุม ครม.สัญจร อุบลฯ เคาะแผน 5 ด้านพัฒนากลุ่มภาคอีสานตอนล่าง เร่งรัดเส้นทางคมนาคม - ตั้งงบฯแก้ปัญหาน้ำท่วม - ยกระดับการเกษตร - พัฒนาคุณภาพชีวิตเพิ่มการบริการโรงพยาบาล - พัฒนาการค้าชายแดน

ที่มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี จ.อุบลราชธานี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่อย่างเป็นทางการที่จังหวัดอุบลราชธานี ว่า การประชุมนอกสถานที่อย่างเป็นทางการในกลุ่มจังหวัดภาคอีสานตอนล่าง 2 ทั้งหมด 4 จังหวัด ซึ่งการลงพื้นที่จังหวัดอำนาจเจริญและจังหวัดอุบลราชธานี ทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ตามวัตถุประสงค์ และอยากให้สื่อสนใจคณะรัฐมนตรีที่ลงพื้นที่ไปตามจังหวัดต่างๆ ไม่ใช่สนใจนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียว

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า วันนี้อยู่ในช่วงของฤดูฝน ส่วนท้องถิ่นต้องลงมาดูประชาชนในพื้นที่ด้วยตนเองเพราะเป็นหน้าที่ ไม่ต้องรอให้ส่วนกลางลงมาช่วย ทั้งหมดถือเป็นการกระจายอำนาจ จึงขออย่ามองเรื่องอำนาจหรือเรื่องของงบประมาณแต่ต้องเตรียมความพร้อมด้วยตนเองก่อน ขณะเดียวกัน ตนเองยังให้กระทรวงมหาดไทยพิจารณาจัดสรรงบประมาณนำสายไฟลงดินรอบทุ่งศรีเมืองจังหวัดอุบลราชธานี เพื่อความสวยงามและส่งเสริมการท่องเที่ยวให้ประเพณีแห่เทียนเข้าพรรษามีความสวยงามและดึงดูดนักท่องเที่ยวมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม สำหรับโครงการทั้งหมดที่ทางจังหวัดเสนอเข้ามาในการประชุม ครม.สัญจร นั้น เป็นโครงการที่มีงบประมาณสูงแต่หลายอย่างบรรจุในแผนงานอยู่แล้ว บางโครงการยังทำไม่เสร็จก็ต้องจัดสรรงบประมาณเพื่อดำเนินการต่อไป จึงขอให้ทุกคนช่วยลดภาระการใช้จ่ายเงินที่ไม่ก่อให้เกิดมูลค่าเพื่อทำให้ทุกคนเกิดความเท่าเทียมกัน และต้องสร้างความเข้าใจว่าการดำเนินงาน 4 ปีของรัฐบาลประชาชนได้อะไรไปบ้างหลายเพราะคนก็ลืม เมื่อก่อนไม่สงบก็อยากได้ความสงบ พอสงบแล้วก็บอกว่าไม่มีอะไร ซึ่งสิ่งที่ซื้อไม่ได้คือความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สิน แต่ต้องมาจากใจของทุกคนในการช่วยกันด้วยจิตสำนึก

คณะรัฐมนตรี อุบลราชธานี ประยุทธ์ 24100818.jpg

ด้าน พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมครม.สัญจร จังหวัดอุบลราชธานี เห็นชอบผลการประชุมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 2 (อุบลราชธานี ยโสธร ศรีษะเกษ อำนาจเจริญ) ซึ่งครอบคลุมการพัฒนาพื้นที่ภาคอีสานรวม 5 ด้าน คือ ด้านการพัฒนาโลจิสติกส์ ด้านการพัฒนาแหล่งน้ำ เพื่อการเกษตร และการแก้ไขปัญหาอุทกภัย ด้านการยกระดับการผลิต และสร้างมูลค่าเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร ด้านคุณภาพชีวิต และด้านการท่องเที่ยว ซึ่งแต่ละโครงการนายกฯ ได้มอบหมายให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปดำเนินการตามแผนงาน มีกรอบวงเงินโครงการรวมทั้งสิ้นกว่าหมื่นล้านบาท

สำหรับข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีใน 5 ด้านนั้น 1.ด้านการพัฒนาระบบโลจิสติกส์ โครงข่ายคมนาคมทางถนน 12 เส้นทาง โครงข่ายคมนาคมทางอากาศ เร่งรัดดำเนินการขยายอาคารสนามบินนานาชาติอุบลราชธานีให้เร็วขึ้นจากที่กำหนดไว้เดิมปี 2565 เร่งรัดศึกษาสนามบินมุกดาหาร โครงข่ายคมนาคมทางราง เร่งรัดศึกษาโครงการรถไฟทางคู่วรารินชำราบ - ช่องเม็ด จ.อุบลราชธานี

2.ด้านการพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการเกษตรและแก้ไขปัญหาอุทกภัย ตั้งแต่ปี 2557 - 2561 รัฐบาลได้ตั้งงบประมาณในปี 2562 กว่า 2,000 ล้านบาท

3.ด้านการยกระดับด้านการผลิตและสร้างมูลค่าเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร โดยเฉพาะการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี และเกษตรอินทรีย์ ตั้งเป้าผลิตข้าวหอมมะลิให้เป็น 1 ล้านไร่ ในปี 2564  

4.ด้านคุณภาพชีวิต กลุ่มอีสานตอนล่างมีประชากร 4.2 ล้านคน มีโรงพยาบาลไม่เพียงพอ จึงขออนุมัติเพิ่ม 3 โครงการ เพิ่มการให้บริการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ให้รับผู้ป่วยได้มากขึ้น ให้มีศูนย์การแพทย์แผนไทย - พนา เป็นศูนย์การแพทย์ครบวงจรในตัวเมือง และสนับสนุนครุภัณฑ์พัฒนาโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชเดชอุดม

5. ด้านการท่องเที่ยว ขอสนับสนุนโครงการพัฒนาเส้นทางคมนาคมเส้นทางท่องเที่ยวและเชื่อมโยงการค้าชายแดนทางหลวงหมยเลข 217 วารินชำราบ - ช่องเม็ก รวมทั้งขอสนับสนุนกลไกพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวชายแดนช่องเม็กให้เป็นเมืองศูนย์การค้าชายแดน

ขณะที่ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายในที่ประชุมครม. ให้ตนเป็นหัวหน้าทีมไปหาทางขับเคลื่อนการพัฒนาอุตสาหกรรมชีวภาพของไทย หรือไบโออิโคโนมี ของพื้นที่ภาคอีสานตอนล่างทั้ง 4 จังหวัด เพื่อช่วยเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ และต่อยอดเพิ่มศักยภาพของประเทศให้เป็นศูนย์กลางด้านอุตสาหกรรมชีวภาพของอาเซียนในอนาคตต่อไป

ด้านนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม กล่าวว่า ในด้านการพัฒนาระบบโลจิสติกส์ของ 4 จังหวัด มีโครงการที่เสนอเข้ามารวม 19 โครงการ มูลค่า 5.9 หมื่นล้านบาท