นายก่อแก้ว พิกุลทอง อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทยและแกนนำ นปช. กล่าวถึงกรณีการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัญจร ที่จ.อุบลราชธานีและจ.อำนาจเจริญ ระหว่างวันที่ 23-24 ก.ค.นี้ ว่า การประชุมครม.สัญจรหรือการลงพื้นที่ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะประชาชนจะสามารถสะท้อนปัญหาในพื้นที่นั้นๆ ได้โดยตรงเพื่อให้ฝ่ายรัฐบาล และฝ่ายบริหารจะได้นำปัญหาต่างๆ กลับมาแก้ไขความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนได้ โดยเฉพาะพี่น้องเกษตรกร ที่ได้รับผลกระทบโดยตรง จากราคาพืชผลที่ตกต่ำ
ในทางกลับกันหากการลงพื้นที่ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและครม. มีนัยยอย่างอื่น ไม่ได้เอาผลประโยชน์ของประชาชนเป็นตัวตั้ง แต่เอาผลประโยชน์ของตัวเองเป็นสำคัญ ลงไปเพื่อแก้ปัญหาให้ตัวเองมากกว่าก็เป็นเรื่องที่น่าเสียดายแทนพี่น้องประชาชนและเป็นการเปลืองงบประมาณเปลืองภาษีโดยเปล่าประโยชน์
'กอบศักดิ์' ยัน ครม.สัญจรอุบลฯ-อำนาจเจริญ ใช้เวลาเตรียมการล่วงหน้า 1 เดือน
ขณะที่ นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวชี้แจงถึงกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์การประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ที่ จ.อุบลราชธานี และ จ.อำนาจเจริญ ระหว่างวันที่ 23-24 ก.ค.นี้ อาจแฝงนัยยะทางการเมืองเกี่ยวกับการดูดอดีต ส.ส. ว่า ข่าวที่ออกมาไม่เป็นความจริง เพราะปัจจัยสำคัญที่ทำให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ตัดสินใจเลือก จ.อุบลราชธานี และ จ.อำนาจเจริญ เป็นที่ประชุม ครม.สัญจรในครั้งนี้ คือความพร้อมของพื้นที่ เพราะปกติแล้วการเตรียมการจะใช้เวลาประมาณ 1 เดือน เพื่อให้พื้นที่ระดมทุกฝ่ายจัดเตรียมข้อเสนอโครงการสำคัญเพื่อเสนอ ครม.พิจารณา
โดยจะเริ่มจาก 1.การจัดทำข้อเสนอระดับจังหวัด 2.นำมาคัดเลือกรวมกันเป็นข้อเสนอเด่นของกลุ่มจังหวัดที่สอดประสาน มีพลัง สร้างอนาคต และ 3.การคัดเลือกพื้นที่ที่เหมาะสมที่นายกรัฐมนตรีจะลงไปเยี่ยมพี่น้องประชาชน
วิษณุ ยืนยันการลงพื้น ครม. สัญจรภาคอีสานไม่เกี่ยวกับการการเมือง
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย ยืนยันว่าการลงพื้นที่ ประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรในแต่ละจังหวัดอย่างต่อเนื่องนั้น เป็นการปฎิบัติหน้าที่ในการบริหารราชการแผ่นดินเพื่อติดตามความก้าวหน้า การปัญหาความเดือดร้อน เป็นนโยบายของรัฐบาลในทุกยุคทุกสมัยโดยเฉพาะในช่วง 20 ปี หลังซึ่งรัฐบาลตั้งใจตั้งแต่เข้ามาว่าจะลงพื้นที่ทุกภูมิภาคทั่วประเทศ ส่วนที่ 2 ปีแรกมีการลงพื้นที่น้อย แต่มาลงอย่างต่อเนื่องในช่วงหลังก่อนมีการเลือกตั้งเพราะก่อนหน้านี้ได้แจ้งไปทุกพื้นที่ให้มีการขับเคลื่อนงานต่างๆ และรัฐบาลจะลงไปติดตามทั้งหมด ในช่วงหลัง
ส่วนข้อสังเกตที่ว่าพื้นที่ภาคอีสานเป็นฐานเสียงพรรคเพื่อไทยที่ รัฐบาลต้องการจะไปดึงความนิยมนั้น ยืนยันว่าก่อนหน้านี้รัฐบาลตัดสินใจว่าจะลงพื้นที่ในภาคเหนือ จ.เชียงรายและน่าน แต่เนื่องจากปัจจัยด้านความพร้อม จึงเปลี่ยนมาที่ภาคอีสาน อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าจะไป จัด ครม. นอกสถานที่ ที่จ.เชียงรายในโอกาสหน้าหลังจากที่ทุกอย่างมีความพร้อม ส่วนการเชิญนักการเมืองในพื้นที่ไปร่วมด้วยนั้นเป็นกระบวนการรับฟังความคิดเห็นอย่างหนึ่ง เพราะรัฐบาลตั้งใจจะรับฟังความคิดเห็นของทุกฝ่าย
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สศช. รวบรวมข้อมูลจากการลงพื้นที่ ครม. สัญจร ทุกครั้งของรัฐบาลว่ามีโครงการใดที่ได้อนุมัติและพื้นที่ เรื่องใดที่ไม่สามารถอนุมติได้และเรื่องใดที่รอการอนุมัติ โดยยืนยันว่าอุบลราชธานีเป็นจังหวัดที่กำหนดลงพื้นที่เอาไว้ไม่เกี่ยวกับการดูด ส.ส. พร้อมกันนี้ ปฎิเสธว่าไม่ได้ยินว่าเกณฑ์ประชาชนไปได้มากจะมีผลต่อการอนุมัติงบประมาณของจังหวัด
ข่าวเกี่ยวข้อง :