ร.ต.อ.วัฒนรักษ์ สุรนาทยุทธ์ นักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่มีคนขับขี่มอเตอร์ไซค์บนทางเท้าและได้ชนนักเรียนได้รับบาดเจ็บนั้น ทาง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เผยว่าเตรียมดำเนินคดีกับผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ตาม พ.ร.บ.ทางบก ซึ่งมีอัตราโทษปรับไม่เกิน 1 พันบาท และ พ.ร.บ.เกี่ยวกับทางเท้า อัตราโทษปรับไม่เกิน 5 พันบาท โดย สตช.แถลงการณ์ยอมรับในเรื่องข้อจำกัดของกำลังพลในชั่วโมงเร่งด่วน ที่จำนวนตำรวจมีกำลังไม่เพียงพอดูแล แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ทางสังคมยอมรับได้ยาก เพราะเหตุการณ์เหล่านี้ได้เกิดขึ้นบ่อยครั้ง จากการที่ สตช.มีกำลังพลกว่า 250,000 นาย และกล้อง CCTV จำนวนมาก จึงอยากวอนขอให้ จนท.ตร. ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบโดยตรง หายุทธวิธีแก้ไขเรื่องนี้อย่างเร่งด่วนและจริงจัง เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเช่นนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าอีก
ร.ต.อ.วัฒนรักษ์ กล่าวต่ออีกว่า จากรายงานองค์การอนามัยโลก (WHO) ด้านความปลอดภัยทางถนน ระบุว่าในปี 2558 ประเทศไทยมีคนเสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนมากเป็นอันดับ 2 ของโลก และสถิติคดีอุบัติเหตุ ของสำนักงานสถิติแห่งชาติ ในปีเดียวกันก็พบว่าคนเดินเท้ามีคดีที่เกิดอุบัติเหตุจากการจราจรทางบกเฉลี่ยปีละ 2,085 คดี หรือเท่ากับ 6 คดีต่อหนึ่งวัน ซึ่งนอกเหนือจากการเดินทางเท้าในประเทศไทยที่เต็มไปด้วยอันตรายแล้วยังมีเส้นทางจักรยานเมืองกรุงอีก 48 เส้นทางที่กำลังประสบปัญหาจำนวนมากเพราะมีมอเตอร์ไซค์เข้ามาขับบนลู่จักรยาน และชาวบ้านจอดรถยนต์ทับเส้นทางพร้อมทั้งยังนำสิ่งของมาจับจองพื่นที่เพื่อจอดรถยนต์อีก ดังนั้น หากทาง สตช. ให้ความสำคัญกับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน โดยการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง นอกจะทำให้เหตุการณ์เหล่านั้นไม่เกิดขึ้น แล้วยังทำให้อุบัติเหตลดลงอีก ซึ่ง มิสเตอร์อับราฮัม ลินคอล์น อดีตประธานาธิบดี คนที่ 16 ของสหรัฐอเมริกา ได้เคยกล่าวไว้ว่า “หากกฎหมายไม่มีการบังคับใช้ก็เป็นเพียงแค่คำแนะนำที่ดีเท่านั้น”