เครือข่ายองค์กรภาคประชาสังคมนานาชาติ Civicus Monitor เผยแพร่รายงานผลการประเมินสถานะของเสรีภาพในประเทศต่างๆทั่วโลก โดยระบุว่า สถานการณ์ในย่านเอเชีย-แปซิฟิกนับว่า 'น่าผิดหวัง' เนื่องจากประชาชนที่ต้องใช้ชีวิตภายใต้ระบอบปกครองที่ “ปิดสนิท, ควบคุม, หรือลิดรอนพื้นที่ของพลเมือง มีมากถึง 94 เปอร์เซ็นต์
รายงานได้วิเคราะห์สถานการณ์ด้านเสรีภาพโดยจัดแบ่งระบอบปกครองออกเป็น 5 ประเภท เริ่มตั้งแต่เปิดกว้าง (open) ลดทอน (narrowed) ลิดรอน (obstructed) ควบคุม (repressed) จนถึงปิดสนิท (closed)
ระบอบที่เปิดกว้าง หมายถึง รัฐบาลปกป้องพื้นที่ของพลเมือง ประชาชนมีสิทธิเสรีภาพอย่างเต็มที่
ระบอบที่ลดทอน หมายถึง รัฐบาลละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชนเป็นบางครั้ง
ระบอบที่ลิดรอน หมายถึง รัฐบาลปิดกั้นสิทธิเสรีภาพอย่างมาก
ระบอบที่มีการควบคุม หมายถึง พลเมืองมีพื้นที่ในการแสดงออกน้อยมาก คนที่วิจารณ์รัฐบาลจะถูกเฝ้าติดตาม กลั่นแกล้ง ข่มขู่ จำคุก หรือถึงแก่ความตาย
ระบอบที่ปิดสนิท หมายถึง พลเมืองไม่มีสิทธิเสรีภาพใดๆ ทั้งในทางกฎหมายและในทางปฏิบัติ
ตามรายงานของซิวิคัส มอนิเตอร์ ประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีระบอบปกครองแบบปิดสนิท ได้แก่ ลาวกับเวียดนาม ประเทศที่มีระบอบแบบควบคุม ได้แก่ ไทย กัมพูชา และเมียนมา และประเทศที่มีระบอบแบบลิดรอน ได้แก่ มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และบรูไน
รายงานดังกล่าวชี้ว่า รัฐบาลทหารของไทยห้ามการรวมตัวกันทางการเมือง การเดินขบวน รวมถึงเอาผิดทางอาญาต่อผู้ที่ออกมาชุมนุมทางการเมืองโดยสงบ เนื่องจากรัฐบาลทหารต้องหาทางอยู่ในอำนาจต่อไป
ขณะที่เมียนมา ประเทศเพื่อนบ้านนั้นจับกุมคุมขังนักข่าวที่รายงานเกี่ยวกับวิกฤตโรฮิงญา การฟ้องร้องนักกิจกรรม ซึ่งเป็นวิถีเดิมๆ ของเผด็จการทหารที่เคยมีอำนาจ
ในส่วนของเวียดนามนั้น รัฐบาลพรรคสังคมนิยมที่มีเพียงพรรคเดียวก็คุมขังนักกิจกรรมนับร้อยราย เพื่อที่จะควบคุมและทำให้คนที่ไม่เห็นด้วยเงียบเสียงลง
ที่มา: Civicus Monitor/ Asian Correspondent, 27 Nov. 2018
ข่าวที่เกี่่ยวข้อง: