ดร.เผ่าภูมิ โรจนสกุล รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย แสดงความคิดเห็นกรณีกระทรวงการคลังเตรียมมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านโครงการคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ในอัตรา 5% ในช่วงเทศกาลตรุษจีน 1-15 ก.พ. 62 โดยระบุว่า อยากให้รัฐบาลพิจารณาในรายละเอียดของมาตรการดังกล่าวในเชิงลึก เพราะภาษีมูลค่าเพิ่มโดยธรรมชาติเป็นภาษีที่คนรวยจ่ายมากกว่าคนจน ถึงกระทั่งมีนักวิชาการศึกษาพบว่าในการเก็บภาษี 100 บาท จะมีถึงประมาณ 80 บาทที่ออกจากกระเป๋าคนรวย อีกประมาณ 20 บาทออกจากคนจน จึงมีข้อสังเกตว่าแนวคิดการคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม คนรวยหรือผู้มีกำลังซื้อจะเป็นฝ่ายได้ประโยชน์มากกว่าคนจน จนอาจเป็นการซ้ำเติมปัญหาความเหลื่อมล้ำทางรายได้ของประเทศขึ้นไปอีกหรือไม่
นอกจากนั้นยังระบุว่าต้องใช้จ่ายผ่านบัตรเดบิตและต้องเป็นบัญชีที่ลงทะเบียนพร้อมเพย์ ถึงแม้ว่าผู้ถือบัตรเดบิตจะมีถึง 80% แต่เชื่อว่ากลุ่มคนที่จนที่สุดของประเทศก็น่าจะอยู่ใน 20% สุดท้ายที่ไม่ได้มีบัตรเดบิต กลุ่มคนที่เดือดร้อนที่สุดจึงยังคงเป็นกลุ่มที่ไม่ได้ประโยชน์ และยังระบุอีกว่าต้องชำระค่าสินค้าผ่านเครื่องชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ (EDC) ที่เชื่อมต่อกับอุปกรณ์เครื่องบันทึกการเก็บเงิน (Point of Sale : POS) ทำให้ร้านค้าขนาดเล็กหรือร้านโชว์ห่วยที่ไม่มีอุปกรณ์เหล่านี้ก็จะไม่ได้รับประโยชน์จากมาตรการดังกล่าว เป็นการถ่างช่องว่างระหว่างผู้ประกอบการรายย่อยกับรายใหญ่มากขึ้นไปอีก
จึงอยากให้รัฐบาลทบทวนมาตรการนี้ เพราะมีข้อสังเกตว่าด้วยข้อจำกัดต่างๆ ที่ตั้งขึ้น รวมทั้งลักษณะจำเพาะของภาษีมูลค่าเพิ่ม เป็นการทำให้ผู้ประกอบการและประชาชนผู้มีรายได้มากได้ประโยชน์มากกว่าผู้มีรายได้น้อย ซึ่งขัดกับหลักการกระจายทรัพยากรเพื่อการลดความเหลื่อมล้ำหรือไม่
นอกจากนั้นยังเกิดคำถามและข้อสังเกตขึ้นในสังคมในวงกว้างอีกว่าการที่มาตรการดังกล่าวที่เตรียมออกช่วงวันที่ 1-15 ก.พ. 2562 ซึ่งเป็นโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้งนั้น มีวัตถุประสงค์เพื่อประโยชน์ทางการเมืองหรือไม่ รัฐบาลจึงควรให้คำตอบกับสังคมและแสดงความชัดเจนในประเด็นดังกล่าว