ไม่พบผลการค้นหา
รมว.ท่องเที่ยว-ผู้ว่าฯ ภูเก็ต พร้อมกงสุลจีน ติดตามปฏิบัติการกู้ซากเรือฟีนิกซ์ที่จมลงในทะเลภูเก็ตเมื่อกลางปี ทำให้นักท่องเที่ยวจีนเสียชีวิต 47 ราย พร้อมสั่งอายัดซากเรือเพื่อสอบสวนสาเหตุเรือล่ม

นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมด้วยคณะเจ้าหน้าที่รัฐบาลไทย นายหลี่ชุ่นหลิน กงสุลใหญ่สถานทูตจีนประจำประเทศไทย และสื่อมวลชนทั้งไทยและต่างประเทศรวมกว่า 60 คน ร่วมติดตามความคืบหน้าการกู้เรือฟีนิกซ์ในทะเลอันดามัน จ.ภูเก็ต วันนี้ (18 พ.ย. 2561) หลังจากที่ทีมผู้เชี่ยวชาญกู้เรือฟีนิกซ์เริ่มปฏิบัติการดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 17 พ.ย.ที่ผ่านมา

ทีมผู้เชี่ยวชาญฯ ใช้เรือลากจูงความยาว 34 เมตร ลากเรือฟีนิกซ์จากจุดที่ยกเรือขึ้น เพื่อไปขึ้นคานที่อู่รัตนชัย โดยคาดว่ากระบวนการลากจูงเรือจากจุดที่โผล่พ้นน้ำเดินทางไปจนถึงการนำเรือขึ้นคานที่อู่รัตนชัยจะใช้เวลาประมาณ 3-4 ชั่วโมง ขณะที่นายวีระศักดิ์และคณะ ได้ร่วมยืนสงบนิ่งและคำนับแสดงความอาลัยแก่ผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ดังกล่าว โดยย้ำว่า รัฐบาลไทยและรัฐบาลจีนให้ความสำคัญกับการสืบสวนเพื่อหาสาเหตุจากเหตุการณ์เรือล่มในครั้งนี้ จึงจะอายัดเรือในฐานะวัตถุพยานหลักฐานที่สำคัญในการสืบสวนคดีต่อไป

ทั้งนี้ รัฐบาลไทยจะใช้มาตรการในการอายัดเรือแบบเด็ดขาด เพื่อวางระบบรักษาความปลอดภัยสูงสุด ไม่ให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรือเข้าไปใกล้กับวัตถุพยาน และจะทำการกั้นพื้นที่ ติดกล้อง CCTV จัดให้มีเจ้าหน้ารักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง และมอบหมายให้ตำรวจพิสูจน์หลักฐานกับพนักงานสอบสวน เป็นผู้ที่มีอำนาจเด็ดขาดร่วมกันในการที่จะอนุญาตหรือไม่อนุญาตให้ผู้ใดเข้าไปดำเนินการกับเรือในทุกขั้นตอน

นอกจากนี้จะยังมีการจำกัดหรือควบคุมการเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับปฏิบัติการสอบสวนสาเหตุเรือล่ม เพื่อให้การเสนอข่าวสารผ่านสื่อมวลชนมีความเป็นเอกภาพและถูกต้อง โดยจะเป็นการรายงานตรงไปยัง รมว.กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และให้รัฐบาลจีนได้ทราบข้อมูลเป็นลำดับแรก

เรือฟีนิกซ์.jpg

นายหลี่ชุ่นหลินเปิดเผยกับสื่อมวลชนด้วยว่า รัฐบาลจีนพึงพอใจในการดำเนินการของรัฐบาลไทย ที่มีความจริงใจและทุ่มเทในการสืบสวนหาสาเหตุของเรือล่ม จึงเชื่อมั่นว่าเมื่อคดีสิ้นสุดและทราบสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุแล้ว จะทำให้เกิดความเชื่อมั่นด้านการท่องเที่ยว รวมถึงขอขอบคุณรัฐบาลไทยที่ให้ความสำคัญในการออกมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยว และเพิ่มมาตรการยกระดับการดูแลความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยว เป็นการส่งเสริมสร้างบรรยากาศภาพลักษณ์ที่ดีด้านการท่องเที่ยว และเป็นการเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างไทย-จีน

ขณะเดียวกัน สำนักข่าวรอยเตอร์ ซินหัว และแชนแนลนิวส์เอเชีย รายงานว่าเหตุการณ์เรือฟีนิกซ์ล่มในทะเลภูเก็ต ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวไทย เนื่องจากนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เดินทางมาเยือนไทยหลังเหตุเรือล่มลดลงอย่างเห็นได้ชัด เมื่อเทียบกับจำนวนนักท่องเที่ยวจีนในช่วงเวลาเดียวกันเมื่อปีก่อนหน้านี้ และหวังว่าการกู้ซากเรือฟีนิกซ์จะช่วยฟื้นฟูความมั่นใจในหมู่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติได้อีกครั้ง โดยเฉพาะชาวจีน ซึ่งคิดเป็น 1 ใน 3 ของนักท่องเที่ยวต่างชาติกว่า 35.38 ล้านคนที่เดินทางมายังไทยตลอดปี 2560 ที่ผ่านมา

นอกจากนี้ กรณีเรือฟีนิกซ์ล่มยังเคยถูกผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ของจีนวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรง เพราะชาวจีนบางส่วนไม่พอใจท่าทีของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งเคยกล่าวกับสื่อในทำนองว่า "ความสูญเสียของนักท่องเที่ยวชาวจีนเกิดขึ้นเพราะนักท่องเที่ยวจีนไม่ฟังคำเตือนของกรมอุตุนิยมวิทยา รวมถึงเข้ามาท่องเที่ยวกับทัวร์ผิดกฎหมาย"

กระแสวิพากษ์วิจารณ์กรณีเรือฟีนิกซ์ล่มในสื่อสังคมออนไลน์ของจีน ทำให้ พล.อ.ประวิตร ต้องออกมาชี้แจงและขอโทษชาวจีน โดยระบุว่า สิ่งที่ตนเองให้สัมภาษณ์ เกี่ยวกับการละเมิดกฏหมาย ไม่ได้หมายถึงการดูแลให้ความช่วยเหลือนักท่องเที่ยวชาวจีน พร้อมย้ำว่าการสูญเสียที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ รัฐบาลไทยได้แสดงความเสียใจไปแล้ว และเชื่อว่ารัฐบาลจีนจะเข้าใจ และแยกแยะถึงเจตนาของตนเองในการให้สัมภาษณ์ดังกล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง: