เอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส เปิดทำเนียบประธานาธิบดีในกรุงปารีสต้อนรับพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมด้วยคณะรัฐมนตรีและเจ้าหน้าที่ระดับสูงของไทย เมื่อวันที่ 25 มิ.ย. โดยมีการพูดคุยเกี่ยวกับความร่วมมือในหลายด้าน ทั้งเรื่องเศรษฐกิจ การค้า การส่งเสริมภาคเอกชน การเจรจาเขตการค้าเสรี (FTA) และทำความเข้าใจในฐานะที่ไทยจะเป็นประธานอาเซียนในปีหน้า ซึ่งพร้อมจะทำหน้าที่เป็นผู้ประสานความร่วมมือระหว่างฝรั่งเศส-อาเซียนด้วย
อย่างไรก็ตาม เว็บไซต์ Libération.fr ซึ่งเป็นสื่อฝ่ายซ้ายของฝรั่งเศส วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลของตนที่ให้การต้อนรับผู้นำประเทศที่ยังมีประวัติด้านการละเมิดสิทธิมนุษยชน โดยได้อ้างถึงกรณีที่ไทยเพิ่งประหารชีวิตนักโทษในรอบ 9 ปี เมื่อวันที่ 18 มิ.ย. ก่อนที่ พล.อ.ประยุทธ์ จะเดินทางเยือนฝรั่งเศส พร้อมกับระบุว่า การกระทำดังกล่าวสวนทางกับคำมั่นสัญญาที่รัฐบาลไทยเคยให้ไว้กับคณะมนตรีด้านสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ว่าจะดำเนินการลด ละ เลิก โทษประหารให้ได้
นอกจากนี้ยังมีการอ้างถึงกรณีที่รัฐบาลไทยออกคำสั่งปิดกั้นและปราบปรามกลุ่มผู้ชุมนุมที่เห็นต่างจากรัฐบาล และผู้ที่ออกมาเรียกร้องการเลือกตั้ง ถือว่าเป็นการละเมิดสิทธิและเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น รวมถึงสิทธิพลเมืองในการชุมนุมเคลื่อนไหวทางการเมือง
ขณะที่ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. กลุ่มคนไทยจำนวนหนึ่งในฝรั่งเศสได้ร่วมกันยื่นหนังสือต่อประธานาธิบดีมาครง เรียกร้องให้รัฐบาลฝรั่งเศสฟื้นฟูความสัมพันธ์เต็มรูปแบบกับไทยในสมัยรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งเท่านั้น และต้องผลักดันให้ไทยยกเลิกการบังคับใช้อำนาจตามมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 เพื่อที่รัฐบาลฝรั่งเศสจะได้ไม่สนับสนุนอำนาจเผด็จการทางอ้อม
ไทยยืนยัน 'อังกฤษ-ฝรั่งเศส' พร้อมร่วมเดินหน้าขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
แม้จะมีเสียงวิจารณ์และมีความเคลื่อนไหวคัดค้านเกิดขึ้นที่กรุงปารีสของฝรั่งเศส แต่ก็ยังมีกลุ่มคนไทยที่รวมตัวกันชูป้ายสนับสนุนและถ่ายภาพหมู่ร่วมกับ พล.อ.ประยุทธ์ในวันแรกๆ ที่เดินทางถึงฝรั่งเศส และก่อนจะเดินทางกลับมาที่ไทย พล.อ.ประยุทธ์ ได้แถลงความสำเร็จในการเยือนฝรั่งเศส ระหว่างวันที่ 22-26 มิ.ย. โดยระบุว่าได้มีการสัมมนาร่วมกันระหว่างสภานายจ้างฝรั่งเศส (MEDEF) ซึ่งร่วมมือกับทางการไทยในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทำให้มูลค่าการค้าโดยรวมสูงขึ้นร้อยละ 20 เพราะภาคเอกชนเห็นโอกาสและลู่ทางการลงทุนในไทย ที่สามารถเชื่อมโยงไปยังประเทศเพื่อนบ้าน รวมทั้งกลุ่มอนุภูมิภาค ทั้ง ACMECS, CLMV และอาเซียน
นอกจากนี้ยังได้พบกับนักธุรกิจฝรั่งเศสชั้นนำ 4 กลุ่ม ได้แก่ Transdev Group, บริษัท Michelin, กลุ่ม VINCI และ กลุ่ม SUEZ ซึ่งให้การตอบรับและแสดงความยินดีที่ไทยได้ดำเนินการโครงการขนาดใหญ่ อาทิ โครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) และการจัดทำกรอบยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี
ส่วนการหารือระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ และประธานาธิบดีมาครง มีบรรยากาศการหารือที่เป็นกันเอง มีความไว้เนื้อเชื่อใจ และหารือครบทุกประเด็น ทั้งด้านการลงทุน การค้า ความมั่นคง วิกฤตโลกร้อน การใช้อาวุธนิวเคลียร์ การปฏิรูปอุตสาหกรรม การศึกษา ความร่วมมือด้านความมั่นคงทางภูมิภาคกับอาเซียน โดย พล.อ.ประยุทธ์ยืนยันว่าไทยจะเดินหน้าตามโรดแมป และได้เชิญ ปธน.มาครงให้เดินทางเยือนไทยและร่วมการประชุมอาเซียนด้วย
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวสรุปว่า การเยือนสหราชอาณาจักรและสาธารณรัฐฝรั่งเศสครั้งนี้ ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น และเป็นจุดเริ่มต้นอันดีซึ่งต้องพัฒนายิ่งขึ้นไปอีก และขอขอบคุณคนไทยที่อยู่ในสองประเทศที่มาพบและให้กำลังใจในการบริหารประเทศ และจะนำน้ำใจจากพี่น้องคนไทยในต่างแดนเหล่านี้กลับไปฝากคนที่ประเทศไทยด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: