1 ปีผ่านไปหลังจากโลกได้เห็นประชาชนหลายล้านคนชุมนุมกันทั้งในเมืองใหญ่ของสหรัฐฯและทั่วโลกในนามของ Women's March เพื่อแสดงพลังต่อต้านการสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯของนายโดนัลด์ ทรัมป์ เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2017 ในปีนี้ขบวนการ Women's March ได้พิสูจน์ตัวเองว่าไม่ใช่การรวมกลุ่มตามกระแสนิยมเพียงชั่วครั้งชั่วคราว แต่สามารถหล่อเลี้ยงความเคลื่อนไหวมาได้ตลอดทั้งปี เพราะในวันเสาร์ที่ 20 มกราคมที่ผ่านมา Women's March จัดการประท้วงใหญ่ที่คึกคักได้อีกครั้งในเมืองใหญ่อย่างนครนิวยอร์ก ลอสแองเจลิส และกรุงวอชิงตัน ไปจนถึงในพื้นที่ที่เป็นฐานเสียงของรีพับลิกันอย่างมลรัฐฟลอริดาและเท็กซัส รวมถึงเมืองเล็กอื่นๆในสหรัฐฯและทั่วโลกอีกหลายร้อยเมือง
นาตาลี พอร์ทแมน คอนสแตนซ์ หวู่ และอีวา ลองโกเรีย นักแสดงชื่อดัง ร่วมปราศรัยในงานชุมนุม Women's March ที่ลอสแองเจลิส เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2018
การประท้วงใหญ่ที่สุดจัดขึ้นที่นครลอสแองเจลิส มีผู้เข้าร่วมการชุมนุมกว่า 500,000 คน โดยไฮไลท์ของงานคือการขึ้นปราศรัยของนักแสดงแถวหน้าของฮอลลีวูด อย่างนาตาลี พอร์ทแมน สการ์เล็ต โจแฮนสัน และวิโอลา เดวิส ซึ่งนักแสดงเหล่านี้สวมเสื้อ Time's Up ขึ้นเวทีด้วย โดย Time's Up เป็นโครงการระดมทุนของคนดังในฮอลลีวูด เพื่อช่วยเหลือผู้ถูกคุกคามทางเพศในการสู้คดี
ส่วนในนครนิวยอร์ก ก็มีผู้ชุมนุมกว่า 120,000 คน โดยนิวยอร์ก ซึ่งเป็นบ้านของทรัมป์ เป็นหนึ่งในเมืองที่มีกระแสต่อต้านทรัมป์รุนแรงที่สุด เนื่องจากนครนิวยอร์กพึ่งพาผู้อพยพจำนวนมากในการเป็นพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และนิวยอร์กยังเป็นเมืองท่าที่รับผู้อพยพมาตั้งแต่ยุคอาณานิคม ทำให้กระแสต่อต้านนโยบายกีดกันผู้อพยพของทรัมป์รุนแรงอย่างมาก
แนนซี เพโลซี ผู้นำเสียงข้างน้อยในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ร่วมเดินขบวน Women's March ในกรุงวอชิงตัน ซึ่งสภาคองเกรสกำลังเผชิญศึกหนัก ไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณประจำปี 2018 ได้ ทำให้ประเทศถูกแช่แข็งชั่วคราว
ในกรุงวอชิงตัน ผู้ชุมนุมมีจำนวนกว่า 100,000 คนเช่นเดียวกัน โดยหนึ่งในผู้ที่มาร่วมชุมนุมด้วยคือแนนซี เพโลซี ผู้นำเสียงข้างน้อยในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯจากพรรคเดโมแครต เพโลซียืนยันว่าตอนนี้ จำนวนผู้หญิงที่ลงสมัครเลือกตั้งเพื่อเข้ามาทำหน้าที่ในสภาคองเกรสมีมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ และขอให้ประชาชนแสดงออกถึงการต่อต้านนายทรัมป์ด้วยการเลือกสมาชิกเดโมแครตเข้าไปนั่งในสภาให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นได้
ในปี 2017 ที่ผ่านมา พรรคเดโมแครตชนะการเลือกตั้งท้องถิ่นในมลรัฐแอละบามา และเวอร์จิเนีย ทำให้ฝ่ายเสรีนิยมมีขวัญกำลังใจมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ความท้าทายที่แท้จริงอยู่ที่การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้ง 435 ที่นั่ง และวุฒิสมาชิกอีก 33 จาก 100 ที่นั่ง รวมถึงการเลือกตั้งท้องถิ่นอีก 39 มลรัฐ ที่จะมีขึ้นในวันที่ 6 พฤศจิกายนนี้ หากกระแสต่อต้านทรัมป์แรงพอที่จะทำให้พรรคเดโมแครตกลับมาครองสภาคองเกรสได้ จากที่ปัจจุบันพรรครีพับลิกันครองทั้งทำเนียบขาว สภาสูง และสภาล่าง
ด้านนายทรัมป์ ทวีตข้อความเกี่ยวกับการเดินขบวนต่อต้านเขาด้วย โดยกล่าวว่าตอนนี้อากาศกำลังดี เป็นช่วงเวลาที่สมบูรณ์แบบสำหรับพวกผู้หญิงที่จะเดินขบวน ขอให้ทุกคนออกมาร่วมเฉลิมฉลองหมุดหมายทางประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้นในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา ทั้งการเติบโตทางเศรษฐกิจ และอัตราว่างงานของผู้หญิงที่ต่ำที่สุดในรอบ 18 ปี นอกจากนี้ยังมีการลดภาษี การปราบปราม IS อาชญากรรมในประเทศลดลง และตลาดหุ้นทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ด้วย
อ่านเพิ่มเติม