2 พระนาง จากภาพยนตร์ลึกลับสยองขวัญ ‘บุษบา’ กรีน-อัษฎาพร สิริวัฒน์ธนกุล และ โย่ง อนุสรณ์ มณีเทศ ให้สัมภาษณ์พิเศษกับ ทีมข่าววอยซ์ออนไลน์ ถึงภาพยนตร์เรื่อง บุษบา โดยเป็นครั้งแรกที่ทั้งคู่มารับแสดงภาพยนตร์แนวลึกลับสยองขวัญ ผลงานการกำกับของ ชัยวัฒน์ สีตลาศัย แห่ง ค่ายฟิล์มเฟรมโปรดักชั่นส์ โดยเป็นเรื่องราวของนักเต้นที่พลาดหวังการรับบทนำ และพบกับวิญญาณนางรำ ทำให้เธอต้องค้นหาความจริงที่เกิดขึ้นในโรงละคร
โย่ง : ผมรับบทผู้กำกับในเรื่องชื่อเมษ นิสัยค่อนข้างเพลย์บอย และมีความมุ่งมั่นในการทำงาน ด้วยความเพลย์บอยของเขา ทำให้เชื่อมโยงกับเหตุการณ์ต่างๆ นำไปสู่ความสยองขวัญ
กรีน : เรื่องนี้เป็นหนังสยองขวัญเรื่องแรก ที่กรีนมาแสดง โดยรับบทเป็น มินตรา เด็กผู้หญิงที่มีความมุ่งมั่น ความตั้งใจอยากจะเป็นนักเต้นมืออาชีพ และมีโอกาสมาเล่นในละครเวที ที่พระเอกกำกับ แล้วปรากฏว่ามีเรื่องราวอาถรรพ์เกิดขึ้นต่างๆมากมาย ทั้งตัวเองและคนรอบตัว ทำให้เราออกไปค้นหาความจริง เรื่องนี้กรีนได้ไปเรียนเต้นประยุกต์ ผสมผสานการรำเพิ่มเติมด้วย ซึ่งทำให้หนังเรื่องนี้ไม่ใช่แค่เป็นหนังแนวสยองขวัญเพียงอย่างเดียว แต่ยังสืบสวนสอบสวน หาคำตอบไปกับตัวละคร
กรีน : ความยาก คงอยู่ที่วิธีการถ่ายทำ อย่างละคร จะมีกล้องหลายกล้อง การเล่าเรื่องก็ต่างกัน อย่างหนังจะถ่ายทำแค่กล้องเดียว เวลาแสดงก็ต้องเล่นเหมือนเดิมซ้ำๆหลายรอบ ส่วนการแสดงก็คล้ายๆกัน แสดงมาจากข้างในเหมือนกัน ฉากที่ยากที่สุด จะมีซีนหนึ่งที่แสดงคนเดียว กรีน รำๆอยู่และโดนผีเข้าสิง เราต้องเล่นเองคนเดียว ตอนแสดง ระหว่างที่โดนผีเข้าสิงเราต้องคิดตามไปว่า เหมือนเขามาเล่าเรื่องราวให้เราฟังผ่านการเต้น และอยู่ๆเราก็กรี๊ด แล้วก็ร้องไห้ หลายอารมณ์มาก ฉากนี้ถือว่าค่อนข้างยาก ทั้งรำด้วย จำมุมกล้อง อารมณ์ที่ซับซ้อน หินมากสำหรับกรีนเลยค่ะ ใช้เวลาถ่ายทำ 4 ชั่วโมงเลย
โย่ง : ฉากที่ยากที่สุดของผม คือการแสดงความกลัว เพราะปกติไม่ค่อย กลัวอะไรขนาดนี้มาก่อน ต้องทำการบ้านว่า จะต้องแสดงความกลัวประมาณไหน (กรีน : ไม่กลัวอะไรเลยนอกจากกลัวเมีย) (หัวเราะ) ด้วยความที่ปกติคนเราไม่ได้เจอผี หรือสิ่งลี้ลับที่จะเข้ามาทำร้ายชีวิต ก็พอจะต้องแสดงอารมณ์แบบนั้น เลยต้องทำการบ้าน ทำความเข้าใจคนที่จะสื่ออารมณ์กลัวแบบนั้น มันทั้งกลัว ทั้งรู้สึกไม่ดี อารมณ์ค่อนข้างซับซ้อน ก็เป็นหนังไทยที่เล่าเรื่องราวสยองขวัญได้น่าสนใจเรื่องหนึ่ง และมีความลึกลับของเรื่อง ตามตัวละครไปพิสูจน์อะไรบางอย่าง
สำหรับภาพยนตร์เรื่อง “บุษบา” ปัจจุบันถูกซื้อลิขสิทธิ์ไปฉายในหลายประเทศ อาทิ ฟิลิปปินส์,อินโดนีเซีย, ไต้หวัน, อินเดีย, มาเลเซีย, สิงคโปร์, บรูไน, กัมพูชา, ลาว และยังมีการจัดจำหน่ายในช่องทางของ Digital ไปยัง อเมริกา, แคนาดา และยุโรป อีกด้วย